การเงิน-หุ้น, ธุรกิจ

SCAP ส่งแคมเปญ Top Up ตอบแทนลูกค้าผ่อนชำระดี ฟากผู้ถือหุ้นไฟเขียวปันผลหุ้น 50:1 พ่วงเงินสด

SCAP เปิดแคมเปญ Top Up ปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับลูกค้าที่มีวินัยทางการเงินที่ดีและผ่อนชำระดี ด้านผู้บริหาร วิชิต พยุหนาวีชัย ชี้ผลิตภัณฑ์ถูกออกแบบให้ตอบโจทย์ตรงตามความต้องการของลูกค้า ทั้งนี้เพื่อรักษาฐานลูกค้าที่มีวินัยและมีความสามารถในการชำระเงิน มั่นใจได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ฟากผู้ถือหุ้นอนุมัติการจ่ายปันผลประจำปี 66 เป็นหุ้นอัตรา 50:1 หุ้นและจ่ายปันผลเป็นเงินสดสำหรับหุ้นที่ไม่ครบ 50 หุ้น มูลค่ารวมทั้งสิ้น 145 ล้านบาท

วิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 จำกัด (มหาชน) หรือ SCAP เปิดเผยว่า บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่เป็นอันดับ 1 ของประเทศ จึงได้ศึกษาและคิดค้นผลิตภัณฑ์เพื่อให้ตรงโจทย์ตามความต้องการของลูกค้า

โดยผนวกหลักเกณฑ์การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรมของธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ารวมไว้ จึงเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ ‘Top Up’ สินเชื่อที่นำเสนอเฉพาะสำหรับลูกค้าที่มีวินัยทางการเงินที่ดี  โดยจะเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษตามเงื่อนไขของบริษัทสำหรับลูกค้าสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ปัจจุบัน

โดยผลิตภัณฑ์นี้สามารถช่วยบรรเทาภาระที่จำเป็นของลูกค้าในอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม แก้ไขปัญหาภาระหนี้เรื้อรัง และลดปัญหาหนี้นอกระบบ ได้อย่างยั่งยืน เน้นให้กู้เท่าที่จำเป็น และชำระคืนไหวเพื่อไปปิดหนี้นอกระบบ หรือนำไปใช้เพื่อลดปัญหาการขาดสภาพคล่องในชีวิตประจำวัน

“หลังจากที่บริษัทขึ้นเป็นเบอร์ 1 ผมได้พยายามหาโซลูชันใหม่ที่จะมาตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่มีวินัยทางการเงินที่ดี แต่อาจประสบปัญหาและมีความจำเป็นในการใช้เงิน ดังนั้น Top Up จึงเป็นทางออกที่ดีสำหรับลูกค้า เพราะเป็นการให้สินเชื่อที่มีคุณภาพเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจเป็นหลัก” คุณวิชิต กล่าว

นอกจากนี้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท ได้มีมติอนุมัติการจัดสรรกำไรและการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2566 โดยจ่ายปันผลเป็นเงินสดและหุ้นสามัญ รวมมูลค่าที่จ่ายทั้งสิ้น 145.09 ล้านบาท โดยจ่ายเป็นหุ้นสามัญในอัตรา 50 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ และจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.0023 บาท ทั้งนี้กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 และกำหนดจ่ายปันผล 23 พฤษภาคมนี้ 

การเงิน-หุ้น, ธุรกิจ

SCAP ปิดการขายหุ้นกู้ พร้อมควักกรีนชูรองรับดีมานด์ รวมยอด 1.7 พันล้าน นำเงินปล่อยสินเชื่อใหม่ขยายฐานลูกค้า ดันผลงานปี 67 เข้าเป้า

SCAP เป็นปลื้ม! หุ้นกู้ 3 ชุดใหม่ขายหมดหน้าตักเต็มวงเงิน 1,000 ลบ. ดึงกรีนชูขายเพิ่ม ตอบรับความต้องการนักลงทุน กวาดยอดรวมสุทธิ 1,769.8 ล้านบาท 

ด้านผู้บริหาร วิชิต พยุหนาวีชัย ขอบคุณนักลงทุนสำหรับความเชื่อมั่นต่อหุ้นกู้ของ SCAP ที่ประสบความสำเร็จในการขายล้นกรีนชูทุกครั้ง มั่นใจผลงานปีนี้เติบโตเข้าเป้าตามแผนที่ประกาศ พร้อมรักษาแชมป์อันดับ 1 ในธุรกิจสินเชื่อมอเตอร์ไซค์ใหม่ 

วิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 จำกัด (มหาชน) หรือ SCAP เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำการเสนอขายหุ้นกู้ใหม่ 3 รุ่น ประกอบด้วย หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี ดอกเบี้ยคงที่ 4.50% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี ดอกเบี้ยคงที่ 4.90% 

และหุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 4 ปี ดอกเบี้ยคงที่ 5.05% ต่อปี โดยสามารถปิดยอดขายจากนักลงทุนทั่วไปและนักลงทุนสถาบันได้เต็มวงเงินจัดสรร 1,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทได้นำหุ้นกู้สำรองเพื่อการเสนอขายเพิ่มเติม หรือ Greenshoe Option วงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท

รองรับความต้องการส่วนเกินของนักลงทุน ส่งผลให้หุ้นกู้ใหม่ในปี 2567 ของ SCAP ประเดิมเงินระดมทุนได้มากถึง 1,769.8 ล้านบาท หรือมีสัดส่วนความต้องการลงทุนเพิ่ม เกินจากยอดเสนอขายประมาณ 80% สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อหุ้นกู้ของบริษัท

ขณะที่วัตถุประสงค์หลักในการะดมทุนครั้งนี้ บริษัทพร้อมนำเงินปล่อยสินเชื่อในธุรกิจเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ใหม่ สนับสนุนให้เกิดการเติบโตตามแผนงานปี 2567 ด้วยการเน้นปล่อยสินเชื่อที่มีคุณภาพ เพื่อควบคุมคุณภาพหนี้ ผลักดันพอร์ตสินเชื่อเติบโตอย่างมั่นคง และเพิ่มขึ้นจากปีก่อนราว 15% สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวของ SCAP

“ผมขอขอบคุณนักลงทุนเป็นอย่างมากที่สนใจและจองซื้อหุ้นกู้ SCAP เข้ามาล้นหลามจนต้องทำการเสนอขายกรีนชูทุกครั้ง แสดงถึงความเชื่อมั่นต่อหุ้นกู้และผลการดำเนินงานของบริษัท ผมในฐานะผู้บริหารยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินงานตามแผนงานปี 2567 เพราะเป็นปีที่มีโอกาสเติบโตได้ดี ซึ่งเงินที่ได้จากการระดมทุน

เราเน้นการปล่อยสินเชื่อมอเตอร์ไซค์ใหม่ และสินเชื่อส่วนบุคคลเป็นหลัก และปีนี้จะเห็นการรุกตลาดกัมพูชาเต็มปี พร้อมกับการปล่อยสินเชื่อที่มีคุณภาพเพื่อรักษาคุณภาพหนี้ให้มีประสิทธิภาพ และปีนี้จะเป็นอีกปีที่เราจะสามารถรักษาแชมป์อันดับ 1 ในฐานะผู้นำธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ใหม่ได้เป็นปีที่ 2” คุณวิชิต กล่าว

การเงิน-หุ้น, ธุรกิจ

SCAP เผยงบปี 66 รักษาฐานกำไรกว่า 958 ลบ. รับรู้คุมเพดานดอกเบี้ยเช่าซื้อ เดินเกมปล่อยสินเชื่อเน้นคุณภาพต่อเนื่อง บอร์ดเคาะปันผลเป็นหุ้น 50:1

SCAP ประกาศงบปี 66 รักษาระดับกำไรสุทธิ 958.6 ล้านบาท พอร์ตสินเชื่อคงค้างทะลุเป้า 30,000 ลบ.ตั้งแต่กลางปี ส่วนธุรกิจผ่านจุดรับรู้การปรับลดเพดานดอกเบี้ยเช่าซื้อแล้ว ด้านผู้บริหาร วิชิต พยุหนาวีชัย เล็งเดินเกมยาวสู่การเติบโต

ผ่านการปล่อยสินเชื่ออย่างมีคุณภาพด้วยความรับผิดชอบตามเกณฑ์ ธปท. มั่นใจปี 67 ขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้นอีกจากการขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศและกัมพูชา ฟากบอร์ดประกาศจ่ายปันผลเป็นหุ้นสัดส่วน 50 หุ้น ต่อ 1 หุ้นปันผล จ่อขึ้น XD 8 พ.ค. นี้

วิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 จำกัด (มหาชน) หรือ SCAP เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานประจำปี 2566 (สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566) บริษัทมีรายได้รวม 7,164.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,385.4 ล้านบาท หรือขยายตัว 90% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

และมีกำไรสุทธิปี 2566รวม 958.6 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ และสินเชื่อส่วนบุคคลเป็นหลัก สนับสนุนให้พอร์ตสินเชื่อคงค้างทั้งปีอยู่ที่ 34,045 ล้านบาท เติบโตเกินจากเป้าหมายปี 2566 ที่วางไว้ที่ระดับ 30,000 ล้านบาท

ทั้งนี้บริษัทสามารถรักษาฐานกำไรสุทธิใกล้เคียงกับระดับของเมื่อปีที่แล้วได้ แม้มีการปรับลดเพดานดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อลงซึ่งเป็นปัจจัยกดดันในการดำเนินงาน สะท้อนการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพของบริษัทในการประกอบธุรกิจ

“ปี 66 หนึ่งในความสำเร็จของบริษัทคือการก้าวสู่เบอร์ 1 ของธุรกิจสินเชื่อมอเตอร์ไซค์ใหม่ด้วยยอดจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ใหม่ของ SCAP เข้าใกล้ร้อยละ 20 ของยอดจดทะเบียนรถทั้งหมด มากที่สุดในประเทศไทย ดังนั้นจากความสำเร็จนี้ นำมาซึ่งการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อที่เกินเป้าหมายไปมากจากที่เราประเมินไว้

และในปี 67 เราจะมียอดส่วนนี้เพิ่มขึ้นอีกจากการรับรู้เต็มปีของการปล่อยสินเชื่อในกัมพูชาเข้ามารวมด้วย ซึ่งในการเติบโตครั้งใหม่นี้ ผมไม่เพียงคาดหวังการเติบโตแค่ในระยะเวลาเพียง 1 ปี หากแต่มองการเติบโตในระยะยาวที่บริษัทจะเริ่มเข้มงวดและเน้นการปล่อยสินเชื่อที่มีคุณภาพมากขึ้น

ซึ่งเป็นความรับผิดชอบในการดำเนินงานที่บริษัทได้ตระหนักเป็นอย่างดี สอดคล้องกับหลักเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อด้วยความรับผิดชอบและเป็นธรรมตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กำหนดไว้ และผมคาดหมายว่าในปี 67 บริษัทจะยังคงรักษาแชมป์ในการเป็นเจ้าตลาดของธุรกิจสินเชื่อมอเตอร์ไซค์ใหม่ได้อย่างมั่นคงตามที่ตั้งเป้าไว้ได้” วิชิต กล่าว

ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นหุ้นด้วยอัตราส่วน 50 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล สำหรับงวดการดำเนินงานในปี 2566 เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 8 พฤษภาคมนี้ และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้

การเงิน-หุ้น, ธุรกิจ

SCAP ร่วมแบ่งปันความรู้ให้ไรเดอร์ผ่านโครงการ ‘รู้รับ รู้จ่าย รู้ออม’

นายวิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 จำกัด (มหาชน) หรือ SCAP เปิดเผยว่า ปัญหาหนี้สินของคนไทยมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการขาดวินัยและขาดการวางแผนทางการเงินอย่างเหมาะสม ด้วยเหตุนี้ SCAP และบริษัทในเครือ จึงเล็งเห็นความสำคัญในฐานะผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อย ที่เน้นการให้บริการสินเชื่ออย่างรับผิดชอบ

และเป็นธรรม จึงได้จัดโครงการ ‘รู้รับ รู้จ่าย รู้ออม’ เพื่อแบ่งปันความรู้ด้านการเก็บออมอย่างเหมาะสมให้กลุ่มผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์ โดยได้รับความร่วมมือจาก หจก. แลนด์มาร์ค โลจีสติกส์ สถานประกอบการด้านการกระจายพัสดุ ที่มีพนักงานขนส่งพัสดุกว่า 100 คน เป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ

จากการเก็บข้อมูลก่อนและหลังเข้าร่วมโครงการ ‘รู้รับ รู้ออม รู้จ่าย’ พบว่า พนักงานส่งสินค้าที่เข้าร่วมโครงการกว่า 70% อยู่ในช่วงวัยเริ่มต้นทำงานหรือมีอายุระหว่าง 20-29 ปี และ 40% ของจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนระหว่าง 10,000 – 20,000 บาท

ก่อนเข้าร่วมโครงการมีความรู้ความเข้าใจด้านการเก็บออมอยู่ในระดับ ‘ดี’ ที่ 40% และหลังจากเข้าร่วมโครงการ พนักงานส่งสินค้าที่ได้เข้าร่วมโครงการทั้งหมดให้ความเห็นว่าโครงการที่จัดขึ้นมีประโยชน์ และสร้างความเข้าใจเรื่องการวางแผนการออมได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถวางแผนและบริหารการใช้จ่าย การเก็บออม ได้อย่างมีระบบ

ทั้งนี้กลุ่มพนักงานขนส่งพัสดุส่วนใหญ่หรือประมาณ 95% ใช้รถจักรยานยนต์ในการส่งพัสดุเป็นประจำทุกวัน การเข้าร่วมในโครงการทำให้สามารถวางแผนการเงินและจัดสรรการใช้จ่ายได้ โดยสามารถวางแผนออมเงินเพื่อใช้ซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ในการประกอบอาชีพตามแนวทางกู้เท่าที่จำเป็นและใช้คืนตามกำหนด

เพื่อเพิ่มความสามารถในการชำระหนี้ได้อย่างเหมาะสม จากโครงการ ‘รู้รับ รู้จ่าย รู้ออม’ ของ SCAP หากบริษัทต่างๆ หรือ หน่วยงานอื่นๆ สนใจให้ SCAP ร่วมแบ่งปันความรู้ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่อีเมล์ info@srisawadcapital.co.th หรือ โทร 02 691 5600 วันจันทร์ ถึง วันศุกร์ ระหว่างเวลา 8:30 – 17:30 น

การเงิน-หุ้น, ธุรกิจ

SCAP วางหมากปีมังกร รักษาแชมป์เบอร์ 1 สินเชื่อเช่าซื้อมอไซค์ใหม่ ขยับพอร์ตสินเชื่อโตเพิ่ม 15% เน้นปล่อยสินเชื่ออย่างมีคุณภาพ

SCAP พร้อมรักษาแชมป์อันดับ 1 ธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ วางเป้าปีมังกรพอร์ตสินเชื่อโตอย่างน้อย 15% จากปี 66 มุ่งมั่นควบคุมคุณภาพหนี้เพื่อสร้างฐานกำไรระยะยาว 

รักษาระดับการเติบโตแบบมีเสถียรภาพ บิ๊กบอส วิชิต พยุหนาวีชัย ชี้แนวโน้มขยายตัวทั้งไทยและกัมพูชา เตรียมผุดโปรดักส์และแคมเปญตลอดปีกระตุ้นกำลังซื้อ มั่นใจปี 67 ผลงานเข้าเป้าตามแผน

วิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 จำกัด (มหาชน) หรือ SCAP เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทมุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่

และสินเชื่อส่วนบุคคลอย่างมีคุณภาพ เพื่อควบคุม NPLs ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมราว 3-4% โดยมีสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่และสินเชื่อมีหลักประกันประมาณ 85% และพอร์ตสินเชื่อส่วนบุคคลประมาณ 15% 

ซึ่งปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายในการขยายพอร์ตสินเชื่อคงค้างให้เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน และจากเป้าหมายดังกล่าวมั่นใจว่าในปี 2567 บริษัทจะสามารถรักษาอันดับ 1 ในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์ใหม่ได้

สำหรับธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ในกัมพูชา ด้วยปัจจัยด้านคู่แข่งน้อยราย อีกทั้งเป็นตลาดที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูง จึงเป็นตลาดสำคัญในการขยายตัวด้านพอร์ตสินเชื่อที่จะสร้างการเติบโตแก่บริษัทในปี 2567

หลังจากเริ่มดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2566 โดยในปีนี้เตรียมทยอยรับรู้รายได้และกำไรเต็มปีจากการปล่อยสินเชื่อตามแผนงาน

“ปีนี้ผมมองว่าสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ใหม่ยังมีแก็ปให้ขยายตัวได้ทั้งในประเทศไทยและประเทศกัมพูชา แต่เราจะไม่เร่งขยายพอร์ตสินเชื่อให้โตมากจนเกินไป จะเน้นคุมคุณภาพสินเชื่อมากขึ้นในภาวะที่ตลาดมีการแข่งขันน้อยลงและผู้ประกอบการทุกรายเห็นความสำคัญของคุณภาพหนี้มากขึ้น 

เพราะเราต้องการให้ธุรกิจเติบโตแบบแข็งแกร่ง ลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น และรักษาระดับเอ็นพีแอล เราจึงปล่อยสินเชื่อปีนี้แบบเข้มงวด ตอบรับกับหลักเกณฑ์แบงก์ชาติที่เน้นการให้บริการสินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม” คุณวิชิต กล่าว

ทั้งนี้ ตามแผนงานบริษัทคาดว่าจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์กับลูกค้าในระยะถัดไป เพื่อสร้างโอกาสและทางเลือกในการเข้าถึงสินเชื่อและบริการที่เหมาะสมกับลูกค้า รวมถึงการออกแคมเปญเพื่อกระตุ้นตลาดในช่วงไฮซีซันของธุรกิจ เพื่อบรรลุเป้าหมายพอร์ตสินเชื่อตามที่ตั้งเป้าไว้ในปีมังกร

การเงิน-หุ้น, เศรษฐกิจ

SCAP เสนอขายหุ้นกู้ เคาะดอกเบี้ย 4.50 – 5.05% คาดเสนอขายระหว่าง 20 – 22 ก.พ.67 ผ่าน 12 สถาบันการเงินชั้นนำ

SCAP เสนอขายหุ้นกู้ เคาะดอกเบี้ย 4.50 – 5.05% โดยจะนำเงินที่ได้ไปต่อยอดเสริมสร้างความแข็งแกร่งของบริษัท โดยการขยายธุรกิจและขยายฐานลูกค้า ทั้งในประเทศและต่างประเทศ คาดเสนอขายระหว่าง 20 – 22 กุมภาพันธ์ 2567 ผ่าน 12 สถาบันการเงินชั้นนำ

ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 (“SCAP”) เปิดเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ 3 รุ่น เปิดเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ 3 รุ่น ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป (Public Offering)

ประกอบด้วย หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี ดอกเบี้ยคงที่ที่ 4.50% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี ดอกเบี้ยคงที่ที่ 4.90% และหุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 4 ปี ดอกเบี้ยคงที่ที่ 5.05% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้

อันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทและหุ้นกู้ระดับ Investment Grade ที่ “BBB+” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” เสนอขายให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป (ผู้ลงทุนทั่วไป และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน) คาดเปิดจองซื้อระหว่าง 20 – 22 กุมภาพันธ์ 2567 นี้ ผ่าน 12 สถาบันการเงินชั้นนำ

นายวิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 (SCAP) กล่าวว่า SCAP กำหนดอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ชุดใหม่ ประกอบด้วย หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี ดอกเบี้ยคงที่ที่ 4.50% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี ดอกเบี้ยคงที่ที่ 4.90% และหุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 4 ปี ดอกเบี้ยคงที่ที่ 5.05% ต่อปี

ซึ่งเสนอขายให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป และจะจัดจำหน่ายผ่านสถาบันการเงิน 12 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน)

และบริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) โดยหุ้นกู้ทั้ง 3 ชุด จะชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท โดยมีวัตถุประสงค์จะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ไปเพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจและขยายกิจการผ่านการปล่อยสินเชื่อใหม่ให้แก่ลูกค้าของบริษัท

นายวิชิต พยุหนาวีชัย เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การดำเนินงานในปีนี้ บริษัทพร้อมสร้างการเติบโตผ่านกลยุทธ์ Build Strength from Strength ด้วยการเสริมความแข็งแกร่งผ่านจุดแข็งที่โดดเด่นในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ และสินเชื่อส่วนบุคคล โดยต่อยอดจากความสำเร็จที่ผ่านมา และพัฒนาปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น

มุ่งเน้นพัฒนาการบริการและผลิตภัณฑ์เดิมให้ตอบโจทย์ลูกค้าและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้เกิดการใช้บริการซ้ำอย่างต่อเนื่อง และในเชิงกว้างด้วยการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่จากธุรกิจหลัก และธุรกิจใหม่อื่นๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าและสนับสนุนให้พอร์ตสินเชื่อคงค้างรวม สินเชื่อใหม่ และรายได้ เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้

สำหรับเป้าหมายในปี 2567 นี้ บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อคงค้างรวมจากธุรกิจหลักที่ระดับ 30,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่มประมาณ 20,000 ล้านบาท

โดยหากบริษัทปล่อยสินเชื่อได้เป็นไปตามเป้าหมาย จะส่งผลให้เกิด Economies of Scale และบริษัทฯคงความเป็นที่ 1 ในอุตสาหกรรมสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซด์ป้ายแดงของประเทศ ผลักดันให้ต้นทุนการดำเนินงานลดลง เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานให้สูงขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

“หลังจากเครือบริษัทศรีสวัสดิ์ได้ทำการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ โดยบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SAWAD) จะเน้นทำธุรกิจจำนำที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ส่วนSCAP เน้นทำธุรกิจสินเชื่อรายย่อยอื่นๆ แบบครบวงจร เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

และทำให้นักลงทุนเข้าใจความแตกต่างในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งแผนในปี 67 เราเร่งปรับบริการและผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับทั้งลูกค้าเก่าและใหม่ เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อขยายฐานลูกค้า และเร่งศึกษาสินเชื่อรายย่อยใหม่ๆเพื่อสร้าง Ecosystem แบบครบวงจรในธุรกิจ พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำสินเชื่อรายย่อยระดับต้นๆ ของเมืองไทย”

บริษัทมีแผนระยะยาวที่จะมุ่งเน้นการทำกำไรอย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพโดยมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีผลตอบแทนสูงและมีความเสี่ยงที่ยอมรับได้ในธุรกิจสินเชื่อรายย่อยแบบครบวงจร และมีการกระจายตัวของสัดส่วนทางธุรกิจ

ทั้งในแนวลึก และแนวกว้าง เพื่อลดการพึ่งพิงธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง ช่วยกระจายความเสี่ยงและปรับตัวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สนับสนุนให้เกิดการสร้างรายได้ และผลกำไรแก่บริษัทเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

สถาบันการเงินผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ SCAP กล่าวเพิ่มเติมว่า คาดว่าหุ้นกู้ SCAP จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน จากการเป็นบริษัทหลักในกลุ่มศรีสวัสดิ์และมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ที่คาดว่าจะเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 20 – 22 กุมภาพันธ์ 2567 นี้ 

จะมีหุ้นกู้ 3 ชุดให้เลือกตามระยะเวลาที่ต้องการลงทุน มีผลตอบแทนที่น่าพอใจ รวมถึงอันดับความน่าเชื่อถือระดับInvestment Grade ที่ BBB+ แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2566 ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนได้เป็นอย่างดี

สำหรับนักลงทุนที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.thหรือติดต่อผ่านสถาบันการเงินที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ครั้งนี้ ดังนี้

ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้

  • ธนาคารกสิกรไทย (โดยบุคคลรรมดาจองซื้อทางออนไลน์ผ่านhttps://www.kasikornbank.com/kmyinvest ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา) โทร. 02-888-8888 กด 819 และรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
  • ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน Mobile Application – CIMB Thai Digital Banking ได้อีก 1 ช่องทาง) โทร. 02-626-7777
  • บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-009-8351-59
  • บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด  โทร. 02-680-4004
  • บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-658-5050
  • บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด โทร. 02-695-5000
  • บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-351-1800
  • บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด โทร. 02-249-2999
  • บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) โทร. 02-779-9000
  • บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) โทร.02-820-0422
  • บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-658-8888
  • บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด โทร.02-687-7543

หมายเหตุ: บริษัทอยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ การจัดสรรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ เงื่อนไขการจัดจำหน่ายเป็นไปตามที่กำหนดในร่างหนังสือชี้ชวน

คำเตือน: โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในร่างหนังสือชี้ชวนก่อนการตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดได้จากแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนตามรายละเอียดด้านล่าง

การเงิน-หุ้น

SCAP แต่งตั้ง ‘ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 2014’ รองรับธุรกิจประกันภัยพร้อมผนึกพันธมิตร CHUBB – ไทยไพบูลย์ เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า

SCAP แต่งตั้ง ‘ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 2014’ เป็นโบรกเกอร์ประกันภัยดูแลลูกค้าสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ใหม่ เพิ่มความครบวงจรทางธุรกิจ พร้อมเดินหน้าจับมือพันธมิตรใหม่อย่างไทยไพบูลย์ประกันภัย

และลงบันทึกข้อตกลงเพิ่มเติมกับชับบ์สามัคคีประกันภัย สร้างทางเลือกด้านประกันภัยให้ลูกค้าเพิ่มขึ้น ด้านผู้บริหาร วิชิต พยุหนาวีชัย ตอกย้ำการเป็นเบอร์ 1 ในธุรกิจแบบครอบคลุมครบครัน ช่วยลูกค้าแบ่งเบาภาระความเสี่ยง

วิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 จำกัด (มหาชน) หรือ SCAP เปิดเผยว่า บริษัทได้ดำเนินธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่จนก้าวสู่การเป็นเบอร์ 1 ในธุรกิจ

โดยในแผนงานได้ผลักดันให้ธุรกิจมีความครอบคลุมการให้บริการที่ครบครัน จึงได้แต่งตั้ง บริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 2014 จำกัด ผู้ถือใบอนุญาตเป็นนายหน้าวินาศภัย ทะเบียนเลขที่ ว00011/2561

และใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันชีวิต ทะเบียนเลขที่ ช00005/2561 เป็นบริษัทนายหน้าประกันภัย เพื่อชี้ช่องประกันภัยที่เหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วนเบ็ดเสร็จในการให้บริการ

“การที่เราได้ทำให้ธุรกิจของเราครบวงจรจะช่วยทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกรวดเร็ว และได้รับบริการที่ครบถ้วนสมบูรณ์ตามความต้องการของลูกค้า

เพราะเมื่อลูกค้าสนใจยื่นขอสินเชื่อจากบริษัทแล้ว ลูกค้ายังสามารถเลือกความคุ้มครองประกันภัยที่เหมาะสมและได้รับประโยชน์สูงสุดในเวลาเดียวกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี” คุณวิชิต กล่าว

นอกจากนี้ บริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 2014 จำกัด ยังได้ลงนามบันทึกข้อตกลงกับพันธมิตรใหม่ได้แก่ บริษัท ไทยไพบูลย์ประกันภัย จำกัด และลงบันทึกข้อตกลงเพิ่มเติมกับ บมจ.ชับบ์สามัคคีประกันภัย

ปัจจุบันบริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 2014 เป็นนายหน้าประกันภัยที่มีพันธมิตรบริษัทประกันภัยชั้นนำถึง 15 แห่ง และมีความพร้อมในการให้บริการ ทำให้ SCAP มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับบริการที่เหมาะสม

การเงิน-หุ้น

SCAP ส่งโครงการ ‘SCAP ปันเพื่อน้อง’ เติมเต็มโอกาสทางการศึกษาให้นักเรียน

วิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969จำกัด (มหาชน) หรือ SCAP ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยแบบมีหลักทรัพย์ค้ำประกันและไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ครบวงจร เปิดเผยว่าเพื่อให้สอดคล้องกับสโลแกนของบริษัท ‘SCAP เต็มที่กับชีวิตได้ทุกวัน’ บริษัทจึงจัดทำ ‘โครงการ SCAP ปันเพื่อน้อง’ เพื่อเติมเต็มโอกาสและสนับสนุนการสร้างความยั่งยืนในมิติสังคมตามหลัก ESG

โดยบริษัทให้ความสำคัญในเรื่องการศึกษา เพราะการศึกษาสามารถสร้างความยั่งยืนอย่างแท้จริงในเด็กนักเรียนที่ขาดแคลน จึงได้สนับสนุน ทุนการศึกษา ทุนอาหารกลางวัน เครื่องคอมพิวเตอร์ หนังสือ อุปกรณ์การเรียน และอุปกรณ์กีฬา ให้นักเรียน ซึ่งในปี 2566 ได้เลือกโรงเรียนวัดสวนทองรวมมิตร จ.สระบุรี ซึ่งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล เข้าร่วมโครงการดังกล่าว

สำหรับครั้งนี้ บริษัทได้ดำเนินการมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนในระดับชั้นอนุบาล 1 ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3 รวม 38 ทุน แบ่งเป็น ทุนเรียนดี ทุนยากจน ทุนเรียนดีและยากจน เพื่อสนับสนุนให้นักเรียนมีโอกาสเท่าเทียมทางการศึกษา โดยเฉพาะเด็กที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ซึ่งการศึกษาเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างเยาวชนให้มีความรู้ ความสามารถ นำไปใช้ประกอบอาชีพเลี้ยงตน สร้างอนาคตตามที่มุ่งหวัง รวมถึงการเป็นทรัพยากรที่มีคุณภาพของสังคมและประเทศชาติในอนาคต

นอกจากนี้ยังได้มอบเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้สำหรับการเรียนการสอน ฝึกฝนและพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยีให้เกิดประสิทธิผลทางการศึกษา รู้เท่าทันเทคโนโลยี ค้นคว้าข้อมูลเพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่แก่ผู้เรียน ขณะเดียวกันได้มอบ หนังสือ อุปกรณ์การเรียน เครื่องเขียน รวมถึงอุปกรณ์กีฬาให้โรงเรียน เพื่อให้นักเรียนได้ใช้ประโยชน์ในการศึกษาหาความรู้ และฝึกทักษะด้านกีฬาเพื่อสนับสนุนให้นักเรียนมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ และพร้อมสำหรับการเรียนรู้

ทั้งนี้ โรงเรียนวัดสวนทองรวมมิตร ได้รับการสนับสนุนพื้นฐานในมื้ออาหาร ในระดับชั้นอนุบาล 1 ถึง ประถมศึกษาปีที่ 6 ส่งผลให้ในระดับชั้นมัธยมศึกษาขาดแคลนอาหารกลางวัน โดยโรงเรียนต้องประสบปัญหาในการเพิ่มมื้ออาหารกลางวันให้แก่ระดับชั้นมัธยมศึกษาซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม บริษัทจึงได้มอบทุนอาหารกลางวันให้แก่โรงเรียนเพิ่มเติม เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาภาระค่าอาหารกลางวัน สนับสนุนให้นักเรียนได้อิ่มท้อง และมีสมาธิในการศึกษาเล่าเรียน อีกด้วย

การเงิน-หุ้น, ธุรกิจ

SCAP รายได้ 9 เดือนปี 66 โตเท่าตัวทะลุ 5,000 ลบ. พอร์ตสินเชื่อเข้าเป้าก่อนจบปีเดินเกมคุมคุณภาพสินเชื่อสร้างการเติบโตระยะยาว

SCAP กวาดรายได้ 9 เดือนแรกแตะ 5.1 พันล้านบาทพุ่งเกิน 100% เมื่อเทียบกับปีก่อนกำไรสุทธิรวม 834 ลบ. ด้านผู้บริหารวิชิตพยุหนาวีชัยชี้หลังพอร์ตสินเชื่อเข้าเป้า 30,000 ล้านบาทคุมปล่อยสินเชื่อแบบมีประสิทธิภาพสร้างการเติบโตที่มีคุณภาพในระยะยาวจ่อเดินหน้าธุรกิจเต็มตัวในต่างแดนหลังปักหมุดลุยตลาดในประเทศกัมพูชา

วิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 จำกัด (มหาชน) หรือ SCAP เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรก สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยาน 2566 พอร์ตสินเชื่อรวมของบริษัทอยู่ที่ 32,333.86ล้านบาท สนับสนุนให้มีรายได้รวมเติบโตอยู่ที่ 5,139.22 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 101.85% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 2,546.11 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 834.03 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นในระดับทรงตัว

เนื่องมาจากค่าใช้จ่ายด้านการตลาดและบุคลากรของบริษัทเพื่อเตรียมความพร้อมการเติบโตในอนาคตของธุรกิจการให้สินเชื่อของบริษัท เป็นไปตามแผนงานสำหรับการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2567 

ขณะที่ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 ปี 2566 บริษัทฯและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 127.87 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,843.02 ล้านบาท โดยเป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องแม้มีปัจจัยเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลงตามข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ซึ่งบริษัทสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงสามารถสร้างผลการดำเนินงานได้เติบโตทั้งรายได้และกำไรในไตรมาสนี้

“ในไตรมาสนี้เป็นการสานต่อความสำเร็จของบริษัท หลังจากที่เราสามารถบรรลุเป้าหมายพอร์ตสินเชื่อที่ระดับ 30,000 ล้านบาทได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา ดังนั้นผมจึงกลับมาโฟกัสในประเด็นเรื่องคุณภาพสินเชื่อมากขึ้น เพื่อให้การปล่อยสินเชื่อในผลิตภัณฑ์ที่เรามีอยู่เกิดประสิทธิภาพสูงสุด สร้างการเติบโตในระยะยาวตามแผนที่เราวางไว้

ซึ่งในระยะถัดไปเราจะเริ่มดำเนินงานในกัมพูชา เชื่อว่าจะทำให้เห็นการเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 66 และสร้างการเติบโตอย่างดีในปี 67 ในขณะเดียวกันเราก็เร่งศึกษาการทำธุรกิจในประเทศอื่นๆเพิ่มขึ้น เพื่อประเมินแนวโน้มธุรกิจและสร้างโอกาสใหม่ให้กับ SCAP ในการขยายธุรกิจ เพื่อก้าวสู่ผู้นำธุรกิจสินเชื่อในภูมิภาคอาเซียน ” คุณวิชิต กล่าวทิ้งท้าย

การเงิน-หุ้น

SCAP เคาะดอกเบี้ยหุ้นกู้ 4.25 – 4.90% เล็งนำเงินขยายธุรกิจและฐานลูกค้าเสริมแกร่ง เตรียมเสนอขาย 13-15 พ.ย. 66 ผ่าน 8 สถาบันการเงินชั้นนำ

นายวิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 (SCAP) กล่าวว่า SCAP กำหนดอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ชุดใหม่ ประกอบด้วย หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 1 ปี 2 เดือน 23 วัน ดอกเบี้ย 4.25% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 2 ปี ดอกเบี้ย 4.35% และหุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 3 ปี ดอกเบี้ย 4.90% ต่อปี ซึ่งจะจัดจำหน่ายผ่านสถาบันการเงิน 8 แห่ง

ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด

โดยหุ้นกู้ทั้ง 3 ชุด จะชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท และเสนอขายให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป โดยมีวัตถุประสงค์จะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ไปเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจและขยายกิจการผ่านการปล่อยสินเชื่อใหม่ให้แก่ลูกค้าของบริษัท

นายวิชิต พยุหนาวีชัย เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การดำเนินงานในปีนี้ บริษัทพร้อมสร้างการเติบโตผ่านกลยุทธ์ Build Strength from Strength ด้วยการเสริมความแข็งแกร่งผ่านจุดแข็งที่โดดเด่นในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ และสินเชื่อส่วนบุคคล โดยต่อยอดจากความสำเร็จที่ผ่านมา และพัฒนาปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น มุ่งเน้นพัฒนาการบริการและผลิตภัณฑ์เดิมให้ตอบโจทย์ลูกค้า

และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้เกิดการใช้บริการซ้ำอย่างต่อเนื่อง และในเชิงกว้างด้วยการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่จากธุรกิจหลัก และธุรกิจใหม่อื่นๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าและสนับสนุนให้พอร์ตสินเชื่อคงค้างรวม สินเชื่อใหม่ และรายได้ เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้

สำหรับเป้าหมายในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อคงค้างรวมจากธุรกิจหลักที่ระดับ 30,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นราว 60% เมื่อเทียบกับปีก่อน และปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่มประมาณ 20,000 ล้านบาท โดยหากบริษัทปล่อยสินเชื่อได้เป็นไปตามเป้าหมาย จะส่งผลให้เกิด Economies of Scale ผลักดันให้ต้นทุนการดำเนินงานลดลง เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานให้สูงขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

“หลังจากเครือบริษัทศรีสวัสดิ์ได้ทำการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ โดยบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SAWAD) จะเน้นทำธุรกิจจำนำที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ส่วน SCAP เน้นทำธุรกิจสินเชื่อรายย่อยอื่นๆ แบบครบวงจร เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจที่ชัดเจนยิ่งขึ้น และทำให้นักลงทุนเข้าใจความแตกต่างในการดำเนินธุรกิจ 

ซึ่งแผนในปี 66 เราเร่งปรับบริการและผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับทั้งลูกค้าเก่าและใหม่ เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อขยายฐานลูกค้า และเร่งศึกษาสินเชื่อรายย่อยใหม่ๆเพื่อสร้าง Ecosystem แบบครบวงจรในธุรกิจ พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำสินเชื่อรายย่อยระดับต้นๆ ของเมืองไทย

บริษัทมีแผนระยะยาวที่จะมุ่งเน้นการทำกำไรอย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพโดยมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีผลตอบแทนสูงและมีความเสี่ยงที่ยอมรับได้ในธุรกิจสินเชื่อรายย่อยแบบครบวงจร และมีการกระจายตัวของสัดส่วนทางธุรกิจ ทั้งในแนวลึก และแนวกว้าง เพื่อลดการพึ่งพิงธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง ช่วยกระจายความเสี่ยงและปรับตัวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สนับสนุนให้เกิดการสร้างรายได้ และผลกำไรแก่บริษัทเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

สถาบันการเงินผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ SCAP กล่าวเพิ่มเติมว่า คาดว่าหุ้นกู้ SCAP ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน จากการเป็นบริษัทหลักในกลุ่มศรีสวัสดิ์และมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ระหว่างวันที่ 13 – 15 พฤศจิกายน 2566 นี้ จะมีหุ้นกู้ 3 ชุดให้เลือกจองซื้อตามระยะเวลาที่ต้องการลงทุน มีผลตอบแทนที่น่าพอใจ รวมถึงอันดับความน่าเชื่อถือระดับ Investment Grade ที่ BBB+ แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2566 ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนได้เป็นอย่างดี

สำหรับนักลงทุนที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อผ่านสถาบันการเงินที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ครั้งนี้ ดังนี้

ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (โดยบุคคลรรมดาจองซื้อทางออนไลน์ผ่านhttps://www.kasikornbank.com/kmyinvest ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา) โทร. 02-888-8888 กด 819

ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน Mobile Application – CIMB Thai Digital Banking ได้อีก 1 ช่องทาง) โทร. 02-626-7777

   บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-009-8351-59

   บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด  โทร. 02-680-4004

   บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-658-5050

   บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด โทร. 02-695-5000

   บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-351-1800

   บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด โทร. 02-249-2999