ต่างประเทศ

รัฐบาลจังหวัดชิบะเปิดรับสมัครผู้เข้าแข่งขันงานวิ่ง “ชิบะ อควาไลน์ มาราธอน 2024” ตื่นตาตื่นใจไปกับเส้นทางวิ่งข้ามอ่าวโตเกียว

งานวิ่ง “ชิบะ อควาไลน์ มาราธอน 2024” (Chiba Aqualine Marathon 2024) ซึ่งจัดโดยรัฐบาลจังหวัดชิบะ คือการแข่งขันวิ่งระยะไกลที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2024 

งานนี้ใช้เส้นทางวิ่งข้ามทางด่วน “โตเกียวเบย์ อควาไลน์” (Tokyo Bay Aqua-Line) หรือที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า ทางด่วนข้ามอ่าวโตเกียว (Trans-Tokyo Bay Expressway) โดยมีให้เลือกวิ่งสองแบบทั้งฟูลมาราธอนและฮาล์ฟมาราธอน

รัฐบาลจังหวัดชิบะเริ่มเปิดรับสมัครผู้เข้าแข่งขันในวันที่ 22 มีนาคม 2024 โดยมีโควตาพิเศษสำหรับนักวิ่งจากต่างประเทศด้วย รัฐบาลจังหวัดชิบะตั้งตารอที่จะได้เห็นเหล่านักวิ่งเพลิดเพลินไปกับเส้นทางวิ่งระยะไกลที่มองเห็นวิวมหาสมุทรอันงดงาม

รูปภาพ: https://cdn.kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M102229/202403087751/_prw_PI1fl_FLO2OYUi.png

1. ภาพรวมของงาน

– วันจัดงาน: วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2024

– ประเภท จำนวนรับสมัคร เวลาปิดรับสมัคร ค่าสมัคร: https://cdn.kyodonewsprwire.jp/prwfile/release/M102229/202403087751/_prw_PI2fl_30888tJ5.jpg

2. วิธีสมัครเข้าร่วมงาน

(1) รายละเอียดของโควตาพิเศษ

– โควตาสำหรับนักวิ่งจากต่างประเทศ

ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศมีสิทธิ์ได้รับโควตานี้

– โควตาสำหรับนักวิ่งที่ซื้อแพ็กเกจที่พัก

แพ็กเกจนี้รวมสิทธิ์เข้าร่วมงานวิ่งและค่าที่พักในจังหวัดชิบะ โดยจะได้รับสิทธิ์แข่งวิ่งเมื่อซื้อแพ็กเกจ

*ค่าธรรมเนียมอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยขึ้นอยู่กับประเภทของที่พัก

*ค่าธรรมเนียมรวมค่าเข้าร่วมงานวิ่งและค่าที่พักแล้ว

(2) ระยะเวลาการสมัคร

– โควตาสำหรับนักวิ่งจากต่างประเทศ

ตั้งแต่เวลา 12:00 น. ของวันศุกร์ที่ 22 มีนาคม ถึง 17:00 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม 2024

– โควตาสำหรับนักวิ่งที่ซื้อแพ็กเกจที่พัก

ตั้งแต่เวลา 12:00 น. ของวันศุกร์ที่ 22 มีนาคม ถึง 17:00 น. ของวันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน 2024

*สมัครก่อนได้รับสิทธิก่อนตามลำดับ

คู่มือการสมัคร (ภาษาอังกฤษ): https://url.uk.m.mimecastprotect.com/s/8CJ_CWwD6tXqyJlzIKaRmp?domain=chiba-aqualine-marathon.com

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

– โควตาสำหรับนักวิ่งจากต่างประเทศ

ชิบะ อควาไลน์ มาราธอน 2024

สำนักเลขาธิการสำหรับนักวิ่งจากต่างประเทศ (ผ่านเว็บไซต์ Sports Entry)

สอบถามข้อมูล: https://www.sportsentry.ne.jp/inquiry/en

– โควตาสำหรับนักวิ่งที่ซื้อแพ็กเกจที่พัก

ชิบะ อควาไลน์ มาราธอน 2024

สำนักเลขาธิการสำหรับนักวิ่งที่ซื้อแพ็กเกจที่พัก/นักวิ่งขาเข้า (ผ่านเว็บไซต์ Crossbrace)

สอบถามข้อมูล: https://crossbrace.co.jp/contact

ต่างประเทศ, ท่องเที่ยว, ธุรกิจ

อนันตรา มินา อัล อาหรับ ราส อัล ไคมาห์ โรงแรมหรูแห่งใหม่ล่าสุดเปิดให้บริการแล้วในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

อนันตรา มินา อัล อาหรับ ราส อัล ไคมาห์ รีสอร์ท (Anantara Mina Al Arab Ras Al Khaimah Resort) เปิดประตูความหรูหราในสไตล์อีโคลักซ์ชูรีสู่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ด้วยรีสอร์ทซึ่งตั้งอยู่บนหาดสีทองส่วนตัวท่ามกลางป่าชายเลนธรรมชาติของรัฐราสอัลไคมาห์

โดยรีสอร์ทแห่งใหม่นี้ประกอบด้วยห้องพักสุดหรูจำนวน 174 ห้อง ในบรรยากาศอันเงียบสงบ เป็นส่วนตัว พร้อมสวนสวยอันเขียวชอุ่ม สระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ และยังมีทิวทัศน์อันสวยงามตระการตาของเทือกเขาฮาจาร์ (Hajar) และอ่าวอาหรับเป็นฉากหลัง

อนันตรา มินา อัล อาหรับ มีห้องพักให้เลือกหลากหลายประเภท ทั้งห้องพักและห้องสวีทสไตล์ร่วมสมัยที่กว้างขวาง โดยตั้งอยู่ทั้งภายในอาคารหลักและในอาคารสไตล์โมร็อคโค (riad) ดั้งเดิม ห้องพักแต่ละห้องได้รับการออกแบบตกแต่งในสไตล์ทันสมัยผสานองค์ประกอบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากท้องถิ่น และมีระเบียงส่วนตัวที่ให้ผู้เข้าพักได้ดื่มด่ำกับทัศนียภาพอันน่าทึ่งได้อย่างเต็มที่

อนันตรา มินา อัล อาหรับ ซึ่งออกแบบโดย วิลสัน แอสโซซิเอท (Wilson Associates) และ เพอร์กินส์ อีสต์แมน (Perkins Eastman) นำเสนอความหรูหราที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมัลดีฟส์ด้วยการสร้างวิลล่าเหนือน้ำแห่งแรกของเอมิเรตส์ที่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ระเบียงพักผ่อนกลางแจ้งพร้อมสระว่ายน้ำขนาดย่อมที่เปิดรับวิวสวยของทะเลอาหรับ ป่าชายเลน

พร้อมคาบาน่าบนหาดที่เป็นโซนเฉพาะสำหรับห้องวิลล่า นอกจากทางรีสอร์ท จะจัดพนักงานประจำวิลล่าคอยให้บริการและอำนวยความสะดวกให้กับแขกผู้เข้าพักแล้ว ยังจัดกิจกรรมพิเศษ อาทิ บริการนวด หรือบาร์บีคิวส่วนตัว เพื่อให้แขกได้เพลิดเพลินระหว่างวันพักผ่อนอย่างเต็มที่

ด้วยร้านอาหารและบาร์ 6 แห่ง แขกผู้เข้าพักจึงสามารถเพลิดเพลินไปกับอาหารหลากหลาย โดย แม่โขง ซึ่งเป็นห้องอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ของรีสอร์ท นำเสนอประสบการณ์ทางด้านอาหารไทย เวียดนาม และจีน ผ่านเมนูจานอร่อยแห่งสายน้ำโขงอันยิ่งใหญ่

ห้องอาหาร Beach House ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการใช้ชีวิตแบบสบาย ๆ ของผู้คนในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน พร้อมเมนูอาหารทะเลสดใหม่ ห้องอาหาร Sea Breeze ที่เปิดให้บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดวัน ไปจนถึงคาเฟ่ที่เสิร์ฟเมนูที่ทานง่าย ๆ สบาย ๆ บาร์ริมสระว่ายน้ำ

รวมถึงเลานจ์และบาร์บริเวณล็อบบี้ แขกผู้เข้าพักยังสามารถเลือกสัมผัสประสบการณ์อาหารแบบในส่วนตัวกับบริการ ไดนิ่ง บาย ดีไซน์ อันเป็นเอกลักษณ์ของโรงแรมอนันตรา โดยจะมีเชฟและบริกรมารังสรรค์อาหารมื้อพิเศษ ณ สถานที่พิเศษ อาทิ บนชายหาด หรือบนเรือยอชท์ส่วนตัว

เช่นเดียวกับรีสอร์ทอนันตราทุกแห่ง แขกผู้ใช้บริการจะมีโอกาสได้ดื่มด่ำกับจุดหมายปลายทางและวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยประสบการณ์เฉพาะของที่นี่มีตั้งแต่ กิจกรรมปีนเขาเจเบล เจส (Jebel Jais) ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

พร้อมอาหารกลางวันให้ปิกนิกชมธรรมชาติระหว่างทาง กิจกรรมพายเรือคายัคในป่าชายเลนซึ่งเป็นที่อยู่ของฝูงนกฟลามิงโกและนกกระสา และกิจกรรมการล่องเรือสุดหรูในอ่าวอาหรับพร้อมดื่มด่ำไปกับอาหารค่ำโดยเชฟส่วนตัวในยามพระอาทิตย์ตกดิน ด้วยชื่อเสียงในเรื่องของธรรมชาติที่สวยงามและการผจญภัย

รัฐราสอัลไคมาห์จึงมีกิจกรรมที่ตื่นเต้นเร้าใจให้ผู้มาเยือนได้เลือกสนุกมากมาย อาทิ กิจกรรมโหนสลิงซิปไลน์และแคร่เลื่อนบนหิมะที่ยาวที่สุดในโลก บนยอดเขาเจเบล เจส เยี่ยมชมฟาร์มไข่มุกเอมิเรตส์เพื่อเรียนรู้ความลับเบื้องลึกของมหาสมุทร หรือนั่งบอลลูนลมร้อนเหนือทะเลทรายเพื่อส่องสัตว์ป่าพื้นเมือง

นอกเหนือจากการออกไปสำรวจเมืองแล้ว ที่รีสอร์ทยังมีกีฬาทางน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการพักผ่อนอีกมากมาย ซึ่งรวมถึงสระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ ศูนย์ออกกำลังกายที่มองเห็นวิวป่าชายเลน สนามแพดเดิลเทนนิส ศาลาโยคะ สโมสรสำหรับเด็กและวัยทีน พร้อมกิจกรรมสันทนาการสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่

สำหรับผู้ที่มองหาความสงบ อนันตรา สปา นับเป็นสวรรค์แห่งความผ่อนคลายและการบำบัด โดยตัวสปาตั้งอยู่ภายในสวนที่ตกแต่งอย่างสวยงาม มองเห็นวิวทะเลและป่าชายเลน ห้องทรีตเมนต์ 7 ห้อง พรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ และโซนซาวน่า สตีม  และบ่อน้ำวน แยกชายและหญิง แ

ขกผู้ใช้บริการสามารถเลือกเพลิดเพลินกับทรีตเมนต์ที่มีส่วนผสมจากท้องถิ่น เช่น ราสอัลไคมาห์ ริชชวล ซึ่งมีสครับผิวขัดตัวที่อุดมไปด้วยอินทผาลัม เกลือ และน้ำผึ้งจากรังผึ้งที่ได้จากป่าชายเลน ทรีตเมนต์สำหรับคู่รักที่ได้รับแรงบันดาลใจจากทะเลทรายและมหาสมุทรโดยรอบ รวมถึงยังมีสปาทรีตเมนต์ดั้งเดิมจากอนันตราในประเทศไทยอีกด้วย

ในด้านสิ่งแวดล้อม อนันตรา มินา อัล อาหรับ มุ่งมั่นในการอนุรักษ์ธรรมชาติผ่านการปฏิบัติงานและกลยุทธ์ในการลดการใช้พลาสติก การลดขยะ และการใช้พลังงาน โดยการก่อสร้างได้ปฏิบัติตามนโยบายความอย่างยั่งยืน เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ยังเป็นวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เช่น ไม้จากแหล่งเพาะปลูกที่ยั่งยืน ผ้าและพลาสติกรีไซเคิล รวมไปจนถึงการใช้ความระมัดระวังที่จะไม่รบกวนระบบนิเวศโดยรอบ โดยเฉพาะป่าชายเลนซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของเต่าทะเล ฝูงนกอพยพ และพะยูนซึ่งพบได้ยาก

แขกผู้ใช้บริการจึงมีส่วนในการช่วยลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์หรือก๊าซเรือนกระจกจากการเข้าพักและทำกิจกรรมต่าง ๆ  และยังจะมีการเปิดศูนย์การศึกษาธรรมชาติแบบอินเตอร์แอคทีฟ ที่จะช่วยปลูกฝังความรักในธรรมชาติให้กับผู้คนรุ่นต่อไปในเร็ว ๆ นี้อีกด้วย

ด้วยที่ตั้งของราสอัลไคมาห์ที่อยู่ระหว่างฝั่งตะวันออกและตะวันตก รวมถึงสนามบินนานาชาติดูไบซึ่งเป็นหนึ่งในสนามบินที่เชื่อมต่อกันมากที่สุดในโลกที่อยู่ห่างออกไปไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ที่นี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการจัดงานแต่ง

โดยคู่รักที่เลือกจัดงานที่ อนันตรา มินา อัล อาหรับ สามารถเลือกจัดงานบนชายหาดหรือสวนสวยของรีสอร์ทซึ่งสามารถรองรับแขกได้มากถึง 450 คน นอกจากนี้การเดินทางจากรีสอร์ทไปยังสนามบินนานาชาติราสอัลไคมาห์โดยรถยนต์ ยังใช้เวลาเพียง 30 นาที

ดิลิป ราชากาเรีย ซีอีโอ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของอนันตรา และซีอีโอกลุ่ม บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า “เรามีความภูมิใจที่ได้เปิดตัวโรงแรมอนันตราในรัฐราสอัลไคมาห์ ซึ่งโรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมแห่งที่ 9 ของแบรนด์ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

เรามั่นใจว่าโรงแรมแห่งใหม่นี้จะได้รับการตอบรับอย่างดีจากตลาด และจะช่วยสนับสนุนการเราเติบโตอย่างต่อเนื่องของเรา รวมถึงการวางตำแหน่งเอมิเรตให้เป็นจุดหมายแห่งการท่องเที่ยวอันหรูหรา”

ซาเมห์ มุห์ตาดี (Sameh Muhtadi) ซีอีโอ RAK Properties ยังให้ความเห็นว่า “การเปิดตัว อนันตรา มินา อัล อาหรับ ราส อัล ไคมาห์ รีสอร์ท จะมีส่วนอย่างมากในการทำให้วิสัยทัศน์ของ RAK Properties ในการสร้างมินา อัล อาหรับ ให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์ชั้นนำภายในเอมิเรต

การเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นการเปิดโรงแรมแห่งที่สองภายใต้การพัฒนาของเรา และเรายินดีที่จะมอบประสบการณ์การพักผ่อนริมทะเลที่หรูหราและแปลกใหม่ให้กับนักท่องเที่ยว โดยเคารพต่อธรรมชาติและความงดงามของสภาพแวดล้อมด้วย”

ราคาห้องพัก ณ อนันตรา มินา อัล อาหรับ ราส อัล ไคมาห์ รีสอร์ท เริ่มต้นที่ USD 400 หรือประมาณ 14,000 บาท

ต่างประเทศ, ธุรกิจ

‘ฮ่องกง’ จุดประกายไฟเฟสทีฟ รับเทศกาล “Winter Wonderland” ยกขบวนคาแรคเตอร์และกิจกรรมสุดน่ารัก เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกวัย

ฮ่องกงเปิดลิสต์กิจกรรมต้อนรับอากาศหนาวปลายปีและหน้าเทศกาลรื่นเริงที่เวียนมาถึงอีกครั้ง มาร่วมเป็นหนึ่งในผู้ชมกลุ่มแรกของโลกที่จะได้สัมผัสกับประสบการณ์ “เวิล์ด ออฟ โฟรเซ่น” (World of Frozen) ดินแดนโฟรเซ่นที่เหมือนมีชีวิต พร้อมพบปะคาแรคเตอร์ที่ทุกคนชื่นชอบ

ได้ตลอดเทศกาลแห่งความสุขในช่วงวันหยุดนี้ที่ฮ่องกง ไม่ว่าจะเป็นเอลซ่าและอันนาจาก “โฟรเซ่น” เจ้าหมี BE@RBRICK และเจ้าชายน้อย (Le Petit Prince) ในลุคเฟสทีฟ บรรยากาศทั้งเมืองจึงครึกครื้นไปด้วยเสียงหัวเราะ ความรื่นเริง และสีสันแห่งกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งมอบความสุขให้ผู้มาเยือนได้เก็บเกี่ยวไปตลอดหน้าเทศกาล

อีเวนท์ริมอ่าว: การแสดง “ดอกไม้ไฟจากกลางผืนน้ำ (Marine Pyrotechnics” พร้อมแต้มสีสันให้เส้นขอบฟ้าฮ่องกงด้วยลวดลายคริสต์มาสสุดประทับใจ

เทศกาลฤดูหนาวประจำปี Hong Kong WinterFest จะจัดขึ้นที่ Harborside Lawn West ของ Art Park ในย่านเขตวัฒนธรรมเกาลูนตะวันตก ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายนถึง 1 มกราคม จัดแสดงดอกไม้ไฟกลางผืนน้ำที่จะมาสร้างความประทับใจและแต่งแต้มเติมสีให้กับขอบฟ้าของฮ่องกงด้วยลวดลายคริสต์มาสสุดอลังการเป็นเวลาแปดคืนตลอดเดือนธันวาคม (9, 10, 16, 17, 23 – 26 ธันวาคม)

ยาวไปถึงคืนวันคริสต์มาสอีฟและวันคริสต์มาส นอกจากนี้ยังมีจุดถ่ายรูปต้องห้ามพลาด อย่าง ต้นคริสต์มาสขนาดยักษ์ที่สูงกว่า 20 เมตร เทียบเท่าตึก 6 ชั้น ที่จะมาช่วยเสริมความเด่นให้กับท้องฟ้ายามค่ำคืนเหนืออ่าววิคตอเรีย และดาวประดับยอดต้นคริสต์มาสที่สุกสกาวแต่อบอวลไปด้วยความรู้สึกที่ทั้งสงบและเต็มไปด้วยความหวัง

เมื่อใกล้เข้าสู่ช่วงเทศกาลคริสต์มาส บริเวณริมท่าเรือแห่งนี้จะคึกคักไปด้วยการแสดงสดยามค่ำคืนและของกินชวนน้ำลายสอ ไลฟ์สไตล์ยามค่ำคืนในช่วงสุดสัปดาห์ประจำย่านเกาลูนตะวันตกแห่งนี้จะครึกครื้นและมีชีวิตชีวาขึ้นด้วยดนตรีสดรับชมฟรีบนเวทีต่างๆ และข้อเสนอสุดพิเศษจากร้านอาหาร ร้านกาแฟ และรถขายอาหารใต้แสงดาว ยาวนานกว่าสามอาทิตย์ตลอดเดือนพฤศจิกายน

Joyeux Noël! เจ้าชายน้อยฉลองครบรอบ 80 ปีที่โอเชียนปาร์ค ฮ่องกง

สำหรับวันหยุดรอบนี้ โอเชียน ปาร์ค ฮ่องกง ขอเชิญทุกท่านมาร่วมออกเดินทางสู่การผจญภัยที่แสนสดใสไปกับเจ้าชายน้อย (Le Petit Prince) ตัวละครสุดโปรดจากวรรณกรรมฝรั่งเศส ซึ่งจะมาฉลองครบรอบ 80 ปี พร้อมกับสิ่งที่เขารักอย่างดอกกุหลาบ เพื่อร่วมส่งต่อความสุขในช่วงเทศกาลคริสต์มาสให้กับทุกคนในฮ่องกง นอกจากนี้ ทุกท่านยังสามารถตามรอยเจ้าชายน้อยเพื่อรับชมการแสดงแสงสีสุดตื่นตา และเดินเล่นไปตามตรอก “Le Petit Prince Light Alley” ที่ทรงเสน่ห์ เพื่อสัมผัสประสบการณ์วันหยุดอันแสนอบอุ่นที่จะทำให้ประทับใจกันทั้งครอบครัว

คริสต์มาสสไตล์ดิสนีย์แบบครบเครื่อง: ยก Disney 100 CHRISTMAS LOVE 2000% BE@RBRICK UP มาให้ชื่นชมถึงฮาร์เบอร์ซิตี้

ฮาร์เบอร์ ซิตี้ ฮ่องกง เตรียมสร้างความตื่นตาให้กับคริสต์มาสปีนี้ด้วยการคอลแลปครั้งสำคัญระหว่าง MEDICOM TOY และดิสนีย์ใน “Disney100 CHRISTMAS LOVE 2000% BE@RBRICK UP” เพื่อเติมเต็มการฉลองครบรอบ 100 ปีของดิสนีย์ ฟิกเกอร์ BE@RBRICK ในธีมดิสนีย์ 2000% จำนวนกว่า 100 ตัว

จะจัดแสดงไว้ทั่วบริเวณ ประกอบไปด้วยฟิกเกอร์ที่สวมชุดคริสต์มาสกว่า 10 ตัว ที่มาพร้อมดีไซน์ใหม่ล่าสุดทั้งหมด 53 แบบ ที่พร้อมวางจำหน่าย โดยจะนำรายได้ไปบริจาคให้กับมูลนิธิ Hong Kong Blood Cancer Foundation เพื่อสร้างความอบอุ่นหัวใจให้กับทุกคนในช่วงวันหยุดครั้งนี้

ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์เปิดตัว “World of Frozen” แห่งแรกของโลก

ก้าวเข้าสู่ดินแดนแห่งฤดูหนาวที่ต้องมนตร์ วันนี้ (20 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป) ที่ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ได้เปิดตัว “เวิลด์ ออฟ โฟรเซ่น” ดินแดนธีมโฟรเซ่นแห่งแรกที่ใหญ่ที่สุดของโลก นำเสนอสถาปัตยกรรมเมืองที่ทั้งเป็นเอกลักษณ์และน่าหลงใหล เปลี่ยนเมืองแห่งความฝันในโลกของดิสนีย์ให้ออกมาโลดแล่นในชีวิตจริงพร้อมคาแรคเตอร์ที่โปรดปราน มาร่วมค้นพบความมหัศจรรย์ของแลนด์มาร์กที่โด่งดังที่สุดแห่งอาณาจักร รวมถึงภูเขาทางเหนือและอ่าวเอเรนเดลล์ และทั้งหมดนี้ตั้งตระหง่านผสานรวมกับภูมิทัศน์ทางธรรมชาติของเกาะลันเตา

“เวิลด์ ออฟ โฟรเซ่น” นำเสนอหลากหลายประสบการณ์แสนสนุก ได้แก่ “Frozen Ever After” ที่จะพาคุณนั่งเรือเที่ยวด้วยเทคนิคแสงสีเสียงอันหลากหลาย สูบฉีดความสนุกให้กับคุณในทุกอณูไปกับ “Wandering Oaken’s Sliding Sleighs” รถไฟเหาะธีมโฟรเซ่น ซึ่งจะพาคุณลัดเลาะผ่านผืนป่าแห่งเอเรนเดลล์อันงดงาม และ สนุกกับการแสดงท่ามกลางป่าเขาแห่งเอเรนเดลล์ ที่ซึ่งผู้ชมจะสามารถเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวไปกับโรงละครกลางป่า อย่าง “Playhouse in the Woods”

คาร์นิวัลรับลมหนาวสุดโปรดในฮ่องกง: AIA Carnival หวนกลับมาอีกครั้งที่เซ็นทรัล ฮาร์เบอร์ฟรอนต์

เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมกับมหกรรมฤดูหนาวที่งาน AIA Carnival ซึ่งจะหวนกลับมาจัดในฮ่องกงอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 งานคาร์นิวัลนี้เรียกได้ว่าเป็นประเพณีสุดทัชใจของเมือง เพราะยกมาทั้งเครื่องเล่นสุดตื่นเต้น เกมสุดมันส์ และกิมมิกให้เล่นสนุกแบบอินเตอร์แอคทีฟ (Interactive)

รวมถึงจุดแวะแชะ ชิม ชิล ที่ไม่เคยปรากฏในเมืองนี้มาก่อน พร้อมทั้งตุ๊กตาตัวเล็ก (Plush Dolls) กว่า 1 ล้านตัว บรรยากาศงานครั้งนี้จะพิเศษขึ้นไปอีกขั้นด้วยการแสดงริมถนน บูธขายอาหารรสชาติเยี่ยม และการแสดงสดบนเวทีกลาง มาพบกับความสุข ตื่นเต้น และสร้างโมเมนต์ที่น่าจดจำให้กับทั้งครอบครัวที่งานรับลมหนาวอันเป็นเอกลักษณ์ของฮ่องกงแห่งนี้กัน

หากคุณกำลังมองหาสถานที่พักผ่อนที่จะสร้างความสุขให้กับทั้งครอบครัวอยู่ล่ะก็ ฮ่องกงนี่แหละคือคำตอบ จองเที่ยวบินเลยตอนนี้ แล้วมาร่วมฉลองไปกับเทศกาลแห่งความสุข พร้อมพบปะคาแรคเตอร์ที่คุณชื่นชอบ รวมถึงเรื่องเซอร์ไพรซ์ที่จะทำให้ประทับใจแบบไม่รู้ลืม

ต่างประเทศ

รถเครนตีนตะขาบรุ่น XGC28000 ของเอ็กซ์ซีเอ็มจี เสร็จสิ้นงานติดตั้งโครงการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำพลังงานลมลอยน้ำนอกชายฝั่งแห่งแรกของโลก

รถเครนตีนตะขาบรุ่น XGC28000 ของเอ็กซ์ซีเอ็มจี แมชชินเนอรี่ (XCMG Machinery) (SHE:000425) เสร็จสิ้นการติดตั้งกังหันลมของโครงการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำพลังงานลมลอยน้ำนอกชายฝั่งแห่งแรกของโลก (“โครงการ”) บนเกาะหนานรี ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองผูเถียน มณฑลฝูเจี้ยน ถือเป็นความสำเร็จครั้งใหม่ขณะที่เอ็กซ์ซีเอ็มจียกระดับการบูรณาการและนวัตกรรมของอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน

หยาง ตงเซิง (Yang Dongsheng) ซีอีโอของเอ็กซ์ซีเอ็มจี กล่าวว่า “เอ็กซ์ซีเอ็มจีมุ่งมั่นที่จะสร้างอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับคนรุ่นต่อ ๆ ไป เราตั้งตารอที่จะร่วมมือกับพันธมิตรรายอื่น ๆ ทั่วทั้งอุตสาหกรรม และร่วมกันส่งเสริมแนวทางปฏิบัติที่เป็นนวัตกรรมและการประยุกต์ใช้พลังงานทดแทน”

โครงการนี้ใช้แท่นลอยน้ำแบบกึ่งใต้น้ำ (semi-submersible) 3 เสา แต่ละเสาติดตั้งกังหันลมนอกชายฝั่งปริมาณ 4 เมกะวัตต์ และโมดูลแผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่น้ำหนักเบามีความยืดหยุ่น โซนเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำรูปทรงหกเหลี่ยมตรงกลางแท่นจะทำฟาร์มปลาและผลิตภัณฑ์อาหารทะเลพร้อมทั้งผลิตพลังงานสะอาด เมื่อสร้างเสร็จโครงการจะผลิตไฟฟ้าได้ถึง 16 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับปริมาณการใช้ไฟฟ้าของครัวเรือนโดยเฉลี่ยมากกว่า 6,000 ครัวเรือนในหนึ่งปี

แท่นดังกล่าวประกอบด้วยกังหันลมลอยน้ำและกรงเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ รถเครนตีนตะขาบรุ่น XGC28000 ของเอ็กซ์ซีเอ็มจี ได้ติดตั้งกังหันลมปริมาณ 4 เมกะวัตต์ เสาที่ติดตั้งกังหันลมมีความกว้างมาก จึงต้องใช้อุปกรณ์ยกทำงานที่ท่าเรือ ถือเป็นความท้าทายสำหรับรถเครนตีนตะขาบ เพราะต้องมีระยะยกสูงสุดและกำลังในการยกที่ยอดเยี่ยมภายใต้รัศมีการทำงานที่กว้าง

รถเครนตีนตะขาบรุ่น XGC28000 มีกำลังยกสูงสุด 2,000 ตัน โดยยกแขนบูมหลักยาว 126 เมตรจับคู่ทาวเวอร์ทูบขนาด 226 ตันและ 102 ตันก่อน จากนั้นจึงประกอบห้องเครื่องยนต์ขนาด 193 ตันที่มีรัศมีการทำงาน 42 เมตร ก่อนที่จะยกใบพัดสามใบเข้าเชื่อมต่อกับดุมใบพัดด้วยความแม่นยำ

ผู้จัดการโครงการจากต้าเหลียน ซินเซียง (Dalian Xinxiang) ซึ่งเป็นฝ่ายก่อสร้างของโครงการ กล่าวว่า “ระบบขับเคลื่อนแขนบูมแบบติดตั้งน้ำหนักถ่วงที่ให้ความสามารถในการยกที่เหนือชั้นของรถเครนตีนตะขาบขนาด 2,000 ตันของเอ็กซ์ซีเอ็มจีมีประโยชน์มากในโครงการนี้ นอกจากนี้ การขนส่งยังสะดวก และช่วยให้เราประหยัดเวลาและต้นทุน”

ก่อนหน้านี้ รถเครนตีนตะขาบรุ่น XGC28000 มีผลงานการก่อสร้างหลายรายการ ในปี 2563 บริษัทประสบความสำเร็จในการติดตั้งตัวสะท้อนสัญญาณหลักของเสาอากาศรับสัญญาณประสิทธิภาพสูงที่ความสูง 70 เมตร ซึ่งเป็นโครงการของหอสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์แห่งชาติ (National Astronomical Observatory) ของสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน (Chinese Academy of Sciences) โดยเป็นส่วนสำคัญของการรับข้อมูลสำหรับการสำรวจดาวอังคารของจีน และเมื่อเสร็จสิ้น จะกลายเป็นตัวรับสัญญาณลำกล้องเดียวที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย

ต่างประเทศ

Eve Completes Development of its Urban Air Traffic Management Prototype

Eve Air Mobility (“Eve”) (NYSE: EVEX; EVEXW) named three new suppliers for its electric vertical takeoff and landing (eVTOL) aircraft. Garmin® (NYSE: GRMN), will supply the avionics for the aircraft while Liebherr-Aerospace will supply the flight controls actuators. Intergalactic will provide the thermal management system.

“We are looking forward to working with each of our suppliers as we progress with our eVTOL development,” said Johann Bordais, CEO of Eve Air Mobility. “Each of our suppliers undergoes a very stringent review that evaluates not only performance and quality of their product, but also their dedication to continuous improvement and customer support and satisfaction. We are looking forward to a long-term working relationship with each of our suppliers.” 

Garmin will supply the G3000®Integrated Flight Deck for Eve’s eVTOL which features large-format, light weight, high-resolution glass displays integrating seamlessly with Eve’s vehicle management and flight control systems. Tailored for the needs of eVTOL aircraft, the flight deck’s intuitive touchscreen interface reduces pilot workload by providing direct access to a full suite of avionics capabilities including an integrated flight management system, NAV/COM radios, transponder, audio management and access to a breadth of applications including checklists, charts, synoptics, and full-featured maps.

Liebherr will develop electromechanical actuators (EMA) for the fly-by-wire flight controls of Eve’s eVTOL. Liebherr is well known for their expertise in the manufacturing of precision gears and dependable actuation, crucial for this type of technology. The actuators will be powered by the aircraft’s electrical system and the technology will ensure high performance, configurability and easier maintenance.

Intergalactic will provide the thermal management system which will maintain an optimal temperature range for equipment including batteries and other electronic components. The system will also help ensure a comfortable temperature inside the cabin of the aircraft.

The three new suppliers are in addition to three that were announced at the Paris Air Show this past summer. Nidec Aerospace LLC, a joint venture between Japan’s Nidec Corporation and Brazil’s Embraer, will provide the electric propulsion system for Eve’s eVTOL while BAE Systems will supply the energy storage system. DUC Hélices Propellers will provide the rotors and propellers.

Eve’s eVTOL aircraft utilizes a lift+cruise configuration with eight dedicated propellers for vertical flight and fixed wings to fly on cruise, with no change in the position of these components during flight. The latest concept includes an electric pusher powered by dual electric motors that provide propulsion redundancy while ensuring high performance and safety. While offering numerous advantages including lower cost of operation, fewer parts, optimized structures and systems, it has been developed to offer efficient thrust with low sound.

In July, the company announced that its first eVTOL production facility will be located in the city of Taubaté, in the state of São Paulo, Brazil. The company has begun assembly of its first full-scale eVTOL prototype which will be followed by a test campaign in 2024. Eve’s eVTOL is scheduled to begin deliveries and enter into service in 2026.

Concurrently, Eve continues to develop a comprehensive portfolio of agnostic service and operations solutions, including a unique Urban Air Traffic Management (Urban ATM) software to optimize and scale Urban Air Mobility operations worldwide.

ตลาด, ต่างประเทศ, ธุรกิจ

กระเป๋าเดินทาง TEGRA-LITE® จาก TUMI มาพร้อมกับแคมเปญโฆษณาสุดล้ำ นำเสนอกระเป๋าเดินทางเสมือนจริงผ่านจอดิจิทัล

TUMI แบรนด์การเดินทางและไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดับโลก ได้เปิดตัวสื่อโฆษณากลางแจ้ง หรือ Out-of-Home (OOH) แบบสามมิติเป็นครั้งแรก เพื่อนำเสนอคอลเลกชั่นกระเป๋าเดินทางแบบ โครงแบบแข็ง รุ่น TEGRA-LITE® ที่มีน้ำหนักเบาและทนทานเป็นพิเศษ นวัตกรรมโฆษณาแบบใหม่นี้

จะใช้ป้ายโฆษณาแบบ 3D Anamorphic ที่ช่วยจัดการมุมมองเพื่อสร้างการรับรู้ภาพสามมิติที่ให้ความรู้สึกเหมือนจริงบนพื้นผิวสองมิติ โฆษณาจะเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 ถึงมกราคม 2567 ในพื้นที่สำคัญ 7 แห่งในเอเชียแปซิฟิกและตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นนวัตกรรมล่าสุดของแบรนด์ในการมีส่วนร่วมกับลูกค้า

โฆษณานี้มีความยาว 30 วินาที โดยจะนำเสนอส่วนประกอบต่าง ๆ ของ TEGRA-LITE® International Expandable Carry-On ที่กำลังประกอบกันกลางอากาศ แล้วไปกระทบกับผนังโดยรอบ ทิ้งรอยร้าวบริเวณผนัง ความแข็งแกร่งและการรองรับแรงกระแทกสูงสุดนี้สื่อให้เห็นว่าวัสดุ Tegris® ได้เข้ามาปฏิวัติวงการและทำให้คอลเลกชั่นนี้มีความทนทานและความแข็งแรง วัสดุนี้ถูกใช้ในอุปกรณ์ช่วยชีวิต, อุปกรณ์ป้องกันการกระแทกสำหรับนักกีฬา และตัวถังของรถแข่ง

โดยสอดคล้องกับมาตรฐานขั้นสูงด้านความเป็นเลิศในการออกแบบของ TUMI และเป็นแบรนด์เดียวในโลกที่ได้เลือกสำหรับใช้ในอุปกรณ์การเดินทางและใช้เป็นอุปกรณ์เสริม วัสดุ Tegris® ที่ใช้ในการสร้างสรรค์คอลเลกชั่น TEGRA-LITE® ซึ่งนำเสนอผ่านโฆษณา ยังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งระดับโลกอีกด้วย การสร้างสรรค์โดยการรวบรวมวัสดุรีไซเคิลที่มีอายุการใช้งานยาวนานยังทำให้ TEGRA-LITE® เป็นผลิตภัณฑ์ที่รับผิดชอบต่อความยั่งยืนมากขึ้นในการเดินทาง

Jill Krizelman รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดและอีคอมเมิร์ซระดับโลกของ TUMI กล่าวว่า “TUMI มักสร้างนวัตกรรมและปรับเปลี่ยนวิธีการเข้าถึงผู้บริโภคอยู่เสมอ เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้นำกระเป๋าเดินทาง TEGRA-LITE® ชิ้นโปรดมาสู่โฆษณานอกบ้านแบบ 3 มิติครั้งแรก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความคล่องตัวของคอลเลกชั่นประสิทธิภาพสูงนี้ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Tegris® อั้นล้ำสมัย”

โฆษณา 3 มิตินี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อจุดประกายแบรนด์ TUMI ในภูมิภาค ขณะเดียวกันก็ตอกย้ำรากฐานของความหรูหราและประสิทธิภาพ โดยจะเปิดตัวในมาเลเซียเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ตามมาด้วยอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลี ญี่ปุ่น และดูไบ สถานที่ในเมืองแต่ละแห่งได้รับเลือกเนื่องจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำและเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการฟื้นตัวเร็วที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา

ต่างประเทศ

AlibabaCloud เปิดตัว Tongyi Qianwen 2.0 และโมเดลเฉพาะอุตสาหกรรมเพื่อสนับสนุนลูกค้าเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จาก AI เชิงกําเนิด

Alibaba Cloud แกนหลักด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและข่าวกรองของ Alibaba Group ประกาศเปิดตัว Tongyi Qianwen 2.0 ซึ่งเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ล่าสุด (LLM) พร้อมกับโมเดลเฉพาะอุตสาหกรรมใหม่ในงานเทคโนโลยีเรือธงประจําปี Apsara Conference การเปิดตัวครั้งนี้แสดงถึงความก้าวหน้าที่สําคัญอีกประการหนึ่งในการแสวงหานวัตกรรม AI ที่ทันสมัยของ Alibaba Cloud และความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในธุรกิจ

เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นสําหรับโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพซึ่งสนับสนุนการพัฒนา AI เชิงกําเนิด Alibaba Cloud ยังได้เปิดตัวแพลตฟอร์มการฝึกอบรมโมเดล AI และชุดผลิตภัณฑ์คลาวด์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ความคิดริเริ่มใหม่ ๆ เพื่อสนับสนุนชุมชนโมเดล AI แบบโอเพนซอร์สและสตาร์ทอัพ AI ระดับโลกก็ได้รับการเปิดเผยในระหว่างการประชุม ทรัพยากรเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ลูกค้า คู่ค้า นักพัฒนา สตาร์ทอัพ และชุมชนในวงกว้างสามารถควบคุมศักยภาพของ AI เชิงสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่

“ปัจจุบัน 80% ของบริษัทเทคโนโลยีของจีนและครึ่งหนึ่งของบริษัทโมเดลขนาดใหญ่ทํางานบนอาลีบาบาคลาวด์ เรามุ่งมั่นที่จะเป็นคลาวด์ที่เปิดกว้างที่สุดในยุคของ AI เราหวังว่าการพัฒนาและใช้ AI จะง่ายขึ้นและราคาไม่แพงสําหรับทุกคน ดังนั้นเราจึงสามารถช่วยโดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเพื่อเปลี่ยน AI ให้กลายเป็นผลผลิตมหาศาล” Joe Tsai ประธาน Alibaba Group กล่าว

Tongyi Qianwen 2.0: ก้าวกระโดดใน LLMs

Tongyi Qianwen 2.0 ซึ่งเป็น LLM ทั่วไปที่มีพารามิเตอร์ไม่กี่แสนล้านแสดงถึงการอัพเกรดที่สําคัญจากรุ่นก่อนที่เปิดตัวในเดือนเมษายน โมเดลนี้ประสบความสําเร็จเหนือกว่า LLM ชั้นนําในเกณฑ์มาตรฐานในโดเมนต่างๆ ตั้งแต่การทําความเข้าใจภาษา การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ไปจนถึงการตอบคําถาม

ด้วยขนาดโมเดลที่ขยายและเทคนิคการจัดตําแหน่งที่ดีขึ้น Tongyi Qianwen 2.0 แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่โดดเด่นในการทําความเข้าใจคําแนะนําที่ซับซ้อนการเขียนคําโฆษณาการให้เหตุผลการจดจําและการป้องกันภาพหลอน ขณะนี้โมเดลนี้สามารถเข้าถึงได้โดยสาธารณะผ่าน เว็บไซต์ และแอปพลิเคชันมือถือและพร้อมใช้งานสําหรับนักพัฒนาผ่าน API

โมเดลเฉพาะอุตสาหกรรม: AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจ

นอกจากนี้ Alibaba Cloud ยังได้เปิดตัวโมเดลเฉพาะอุตสาหกรรมใหม่เพื่อช่วยให้ธุรกิจปลดล็อกศักยภาพการเปลี่ยนแปลงของ AI เชิงสร้างสรรค์ในภาคส่วนต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจ ภาคส่วนเหล่านี้รวมถึงการสนับสนุนลูกค้าการให้คําปรึกษาทางกฎหมายการดูแลสุขภาพการเงินการจัดการเอกสารการจัดการเสียงและวิดีโอการพัฒนาโค้ดและการสร้างตัวละคร

“โมเดลภาษาขนาดใหญ่มีศักยภาพมหาศาลในการปฏิวัติอุตสาหกรรม เรามุ่งมั่นที่จะใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยรวมถึง AI เชิงสร้างสรรค์เพื่อช่วยให้ลูกค้าของเราจับโมเมนตัมการเติบโตไปข้างหน้า” Jingren Zhou CTO ของ Alibaba Cloud กล่าว “เพื่อช่วยให้ธุรกิจเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ของ AI เชิงสร้างสรรค์ได้ดีขึ้นด้วยวิธีที่คุ้มค่าเรา

จึงเปิดตัวโมเดลพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นรวมถึงโมเดลเฉพาะอุตสาหกรรมเพื่อรับมือกับความท้าทายเฉพาะโดเมน เราหวังว่าโมเดลที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเราสามารถส่งมอบคุณค่าที่แท้จริงให้กับลูกค้าของเราเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดําเนินงานและรักษาความสามารถในการแข่งขัน”

แพลตฟอร์มบริการ GenAI: แพลตฟอร์มการสร้างโมเดล AI ที่ครอบคลุม

เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสําหรับ AI เชิงกําเนิด Alibaba Cloud ได้เปิดตัว GenAI Service Platform ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการสร้างโมเดล AI แบบครบวงจรที่มุ่งปรับปรุงการพัฒนาโมเดลและกระบวนการสร้างแอปพลิเคชัน แพลตฟอร์มนี้มีชุดเครื่องมือที่ครอบคลุมสําหรับการจัดการข้อมูลการปรับใช้โมเดลและการประเมินมูลค่าและวิศวกรรมที่รวดเร็วทําให้องค์กรทุกภาคส่วนสามารถพัฒนาโมเดล AI เฉพาะองค์กรได้ง่ายขึ้น

ผลิตภัณฑ์คลาวด์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนา AI เชิงกําเนิด

เพื่อรองรับความต้องการด้านการประมวลผลและการประมวลผลข้อมูลที่เพิ่มขึ้นซึ่งจําเป็นในการพัฒนา AI เชิงกําเนิด Alibaba Cloud ได้เปิดตัวชุดผลิตภัณฑ์คลาวด์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ในแมชชีนเลิร์นนิ่ง คอนเทนเนอร์ และฐานข้อมูล

  • เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของการฝึกอบรมและการอนุมานโมเดล LLM Alibaba Cloud ได้อัปเกรด แพลตฟอร์มสําหรับปัญญาประดิษฐ์ (PAI) ซึ่งมีพลังการประมวลผลเครือข่ายพื้นที่จัดเก็บข้อมูลการประมวลผลคอนเทนเนอร์การฝึกอบรมแบบจําลองและความสามารถในการอนุมานที่เพิ่มขึ้น บริษัทเทคโนโลยี AI และ metaverse Futureverse ได้ฝึกอบรมโมเดลการสร้างข้อความเป็นเพลงบน PAI โดยใช้ประโยชน์จากความสามารถที่มีประสิทธิภาพสูงและปรับขนาดได้ง่ายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผล
  • เพื่อเร่งกระบวนการสร้างแอปพลิเคชัน AI เชิงกําเนิดแบบกําหนดเอง Alibaba Cloud ได้ปรับปรุงโซลูชันฐานข้อมูลอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งรวมถึงฐานข้อมูลแบบคลาวด์เนทีฟ PolarDB, คลังข้อมูลแบบคลาวด์เนทีฟ AnalyticDB และ ฐานข้อมูล หลายโมเดลแบบคลาวด์เนทีฟ Lindorm ด้วยเอ็นจิ้นเวกเตอร์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวเครื่องมือระบบนิเวศฐานข้อมูลที่ขับเคลื่อนด้วย LLM รวมถึงผู้ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลอัจฉริยะ Data Management Service (DMS) Data Copilot
  • Alibaba Cloud ได้เปิดตัว Alibaba Cloud Container Compute Service (ACS) ซึ่งเป็นโซลูชันไร้เซิร์ฟเวอร์รุ่นบุกเบิกที่รวมบริการคอนเทนเนอร์เข้ากับทรัพยากรการประมวลผลแบบคลาวด์ ACS ช่วยให้ธุรกิจและนักพัฒนาสามารถปรับใช้ทรัพยากรของ Kubernetes ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์การจัดการที่เน้นคอนเทนเนอร์เป็นหลักด้วยวิธีที่คุ้มค่าและใช้งานง่ายยิ่งขึ้น

ครงการชุมชนเพื่อส่งเสริมการพัฒนา AI
ในการเสนอราคาเพื่อสนับสนุนชุมชน AI ที่กว้างขึ้น Alibaba Cloud ได้ให้คํามั่นว่าจะมีส่วนร่วมในชุมชนโอเพ่นซอร์สมากขึ้น รวมถึง ModelScope ซึ่งเป็นชุมชน AI ที่ริเริ่มโดยบริษัทที่มีการดาวน์โหลดโมเดลมากกว่า 100 ล้านครั้งนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเมื่อปีที่แล้ว ผู้บุกเบิกระบบคลาวด์วางแผนที่จะ โอเพ่นซอร์สเวอร์ชัน 72 พันล้านพารามิเตอร์ของ Tongyi Qianwen ในปลายปีนี้

อาลีบาบาคลาวด์ยังได้ประกาศ โครงการ Alibaba Cloud Startup Catalyst Program ซึ่งนําเสนอทรัพยากรการประมวลผลแบบคลาวด์ รวมถึงการสนับสนุนเครดิตระบบคลาวด์สูงถึง 120,000 ดอลลาร์สหรัฐ การเป็นสมาชิกการเรียนรู้ออนไลน์ฟรี และโอกาสในการสร้างเครือข่ายให้กับสตาร์ทอัพระดับโลกที่มีแนวโน้มรวมถึงบริษัท AI

ต่างประเทศ

THXLAB บริษัทโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนของญี่ปุ่น จับมือ AsiaTokenFund Group: พัฒนา THXNET – การขยาย Web3-aaS ในเอเชีย

 THXNET บริษัทโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชน Web3-as-a-Service ในญี่ปุ่น และ AsiaTokenFund Group กลุ่มบริษัท web3 ชั้นนำที่ตั้งอยู่ในเอเชียในวันนี้ ได้ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์โดยมุ่งเน้นที่การขยาย เข้าถึงบริการโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ก้าวล้ำของ THXNET สู่ตลาดเอเชียในวงกว้าง

THXNET ก่อตั้งขึ้นเมื่อสี่ปีที่แล้ว และได้สร้างความก้าวหน้าครั้งสำคัญในอาณาจักรบล็อคเชน ผู้บุกเบิกเทคโนโลยีบล็อกเชน ภูมิใจนำเสนอข้อเสนอที่มีศูนย์กลางอยู่ที่โครงสร้างพื้นฐาน Layer 1 (L1) เฉพาะของตัวเอง เสริมประสิทธิภาพอย่างพิถีพิถัน

ด้วย Rootchain ที่แข็งแกร่งของ THXNET Layer 0 (L0) รากฐานที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้ได้รับการสนับสนุนจากกรอบการทำงาน Substrate ที่ล้ำสมัย ซึ่งได้รับการปรับแต่งเพื่อความสมบูรณ์แบบโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ของ THXLAB ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาที่อยู่เบื้องหลัง THXNET

Layer 1 Blockchain ประสบความสำเร็จครั้งสำคัญด้วยการเข้าสู่เครือข่ายหลักเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สร้างขึ้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เป็นเอกเทศเพื่อทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างภูมิทัศน์ดิจิทัลแบบดั้งเดิม (web2)

และอนาคตของ web3 ที่กระจายอำนาจ THXNET ทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการ Web3-As-A-Service แนวทางนี้ช่วยให้บริษัท web2 มีช่องทางในการเข้าสู่โลกของ web3 ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

“ความสำเร็จของ THXNET ไม่ใช่แค่ในทางทฤษฎี เรามีเครือข่าย Layer 1 ที่ดำเนินการได้ 2 สายที่ทำงานบนเครือข่ายหลักของเรา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมีชีวิตและการนำไปใช้ในโลกแห่งความเป็นจริง” Aro Kondo

ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง THXNET กล่าว ในปัจจุบัน THXNET ได้รวบรวมกรณีการใช้งานและลูกค้าหลายรายที่สร้างจากกรอบงาน รวมถึงเกม กระเป๋าเงินสินทรัพย์ดิจิทัล แอปพลิเคชันไลฟ์สไตล์ ฯลฯ

นอกจากนี้ นอกเหนือจากผลงานแห่งความสำเร็จแล้ว บริษัทแม่ BANQ ยังได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนในญี่ปุ่นกับบริษัทสื่อทางการเงินที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ซึ่งเชี่ยวชาญด้านธุรกิจ Web3

พวกเขากำลังใช้ประโยชน์จาก THXNET เป็นแพลตฟอร์ม โดยทำงานควบคู่ไปกับการตลาด Web3 โครงการที่เกี่ยวข้องกับกีฬา และการค้าคาร์บอนเครดิต นอกจากนี้ บริษัทร่วมทุนยังอยู่ระหว่างการเจรจากับกลุ่มบริษัทหลักๆ หลายแห่งที่เน้นด้านการเงินและอีคอมเมิร์ซ

เป็นที่น่าสังเกตว่าแนวทางที่เป็นนวัตกรรมของ THXNET ได้เริ่มสร้างรายได้จากผู้ใช้เครือข่ายเลเยอร์ 0 และเลเยอร์ 1 แล้ว แหล่งรายได้นี้ทำให้บริษัทเป็นบริษัทที่พึ่งพาตนเองได้ในตลาดบล็อกเชนที่มีการแข่งขันสูง

แต่นวัตกรรมไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น THXNET ใกล้จะเปิดตัวแอปพลิเคชั่นมือถือใหม่ ซึ่งเป็นซุปเปอร์แอพแรกของโลกที่ออกแบบมาสำหรับนักพัฒนาโดยเฉพาะ แอปสุดล้ำนี้มอบความสามารถพิเศษแก่นักพัฒนาในการสร้าง เชื่อมต่อ สร้าง และสำรวจฟังก์ชันการทำงานของบล็อกเชน THXNET ทั้งหมดนี้ภายในอินเทอร์เฟซเดียว

“เราตระหนักถึงความท้าทายที่นักพัฒนาต้องเผชิญในการนำทางในโลกที่มีการกระจายอำนาจ ซุปเปอร์แอปของเราไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือ แต่ยังเป็นโซลูชันที่ครอบคลุม โดยนำฟังก์ชันทั้งหมดที่พวกเขาต้องการมาไว้เพียงปลายนิ้ว ทำให้การเดินทางในพื้นที่บล็อกเชนของพวกเขาง่ายขึ้น” Aro อธิบายอย่างละเอียด

ต่างประเทศ, ท่องเที่ยว

ลุฟท์ฮันซ่า สายการบินประจำชาติของประเทศเยอรมนี นำเครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ที่สุดในโลกกลับมาให้บริการยังประเทศไทย

สายการบินลุฟท์ฮันซ่า สายการบินประจำชาติของประเทศเยอรมนี ได้นำเครื่องบินแอร์บัสรุ่น A380 กลับมาให้บริการที่กรุงเทพฯ แล้วในวันนี้ โดยได้เพิ่มเที่ยวบินให้บริการบินตรงในเส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ และมิวนิกซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย และด้วยความต้องการใช้บริการเส้นทางบิน BKK-MUC จำนวนมาก สายการบินจะให้บริการด้วยเครื่องบินแอร์บัสรุ่น A380 ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารเชิงพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

ด้วยความเป็นมาอันยาวนานมากกว่า 64 ปีของการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศเยอรมนี สายการบินลุฟท์ฮันซ่าจึงได้เลือกกรุงเทพฯ ให้เป็นจุดหมายปลายทางแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่จะต้อนรับเครื่องบินแอร์บัสรุ่น A380 อันเป็นที่นิยม นอกจากการนำเครื่องบิน A380 กลับมาให้บริการอีกครั้งในเส้นทางนี้ สายการบินลุฟท์ฮันซ่ายังได้นำห้องโดยสารและบริการชั้นหนึ่งที่น่าประทับใจกลับมาสู่ประเทศไทยอีกด้วย 

เครื่องบินแอร์บัสรุ่น A380 เป็นอากาศยานที่มีห้องโดยสารสองชั้น ลำตัวกว้าง สี่เครื่องยนต์ ผลิตโดยบริษัทแอร์บัสและเป็นเครื่องบินโดยสารเชิงพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ชั้นบนของเครื่องบินทอดยาวไปตามความยาวของลำตัวเครื่องบิน โดยมีการจัดที่นั่งผู้โดยสารประกอบไปด้วยที่นั่งชั้นหนึ่ง 8 ที่นั่ง ที่นั่งชั้นธุรกิจ 78 ที่นั่ง ที่นั่งชั้นประหยัดพรีเมียม 52 ที่นั่ง และที่นั่งในชั้นประหยัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีก 371 ที่นั่ง

กลับมาตามคำเรียกร้อง

คุณอันลี โด (Ms. Anlee Do) ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง กลุ่มบริษัทลุฟท์ฮันซ่า กล่าวว่า “เรากำลังเพิ่มเที่ยวบินเส้นทางระหว่างประเทศไทยและประเทศเยอรมนีเนื่องจากความต้องการที่สูงขึ้น และเรามีความยินดีที่จะให้บริการแก่ผู้โดยสารชาวไทยที่ต้องการบินตรงไปยังมิวนิกด้วยเครื่องบิน A380 อันเป็นที่นิยม โดยเราเป็นกลุ่มสายการบินเดียวที่ให้บริการเส้นทางบินตรงด้วยเครื่องบิน A380 ระหว่างประเทศไทยและทวีปยุโรป ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นของเราที่มีต่อประเทศไทย”

ด้วยเครือข่ายสายการบินในกลุ่มบริษัทลุฟท์ฮันซ่า สายการบินสวิสอินเตอร์เนชั่นแนล และสายการบินออสเตรียน ทำให้เที่ยวบิน LH773 เพิ่มการให้บริการระหว่างประเทศไทยและทวีปยุโรป โดยมีเที่ยวบินให้บริการ 21 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเชื่อมต่อโดยตรงกับเมืองสำคัญ ๆ ในยุโรป ได้แก่ ซูริค เวียนนา และมิวนิก

ตลาด, ต่างประเทศ, ธุรกิจ

ฟิล์ม อัลอูลา ลงนาม 10 ข้อตกลงโครงการร่วมกับสแตมพีด เวนเจอร์ส

ฟิล์ม อัลอูลา (Film AlUla) ซึ่งเป็นราชกรรมาธิการประจำหน่วยงานด้านภาพยนตร์ในอัลอูลา และสแตมพีด เวนเจอร์ส (Stampede Ventures) บริษัทสื่อระดับโลกภายใต้การบริหารงานของซีอีโออย่างคุณเกร็ก ซิลเวอร์แมน (Greg Silverman) ได้ลงนามในข้อตกลงระยะเวลา 3 ปี

มูลค่าประมาณการที่ 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การเป็นพันธมิตรครั้งประวัติศาสตร์นี้เกิดขึ้นระหว่างงานประชุมของสถาบันโครงการลงทุนเพื่ออนาคต (Future Investment Initiative หรือ FII) ครั้งที่ 7 ในเมืองริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย

โดยฟิล์ม อัลอูลาจะมอบส่วนลดและข้อเสนอจูงใจต่าง ๆ ขณะที่สแตมพีด เวนเจอร์สจะนำเสนอผลงานการถ่ายทำจำนวน 10 รายการสำหรับอัลอูลาตลอดระยะเวลา 3 ปี ยกระดับความทะเยอทะยานของอัลอูลาในการเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมภาพยนตร์และงานสร้างสรรค์ระดับโลก

คุณซิลเวอร์แมน ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของสแตมพีด เวนเจอร์ส คือบุคคลผู้คร่ำหวอดในวงการบันเทิงซึ่งเป็นที่รู้จักจากผลงานของเขาที่วอร์เนอร์บราเธอส์ (Warner Brothers) ที่ซึ่งเขาดูแลภาพยนตร์มากกว่า 125 เรื่อง สร้างรายได้มากกว่า 3.8 หมื่นล้านดอลลาร์ในบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก

ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์เรื่องแฮรี่พอตเตอร์ (Harry Potter) ซีรีส์แบตแมน (Batman) ของคริส โนแลน (Chris Nolan) ภาพยนตร์เรื่อง 300 ของแซค สไนเดอร์ (Zack Snyder) ภาพยนตร์ไตรภาคเรื่องแฮงก์โอเวอร์ (Hangover) ของท็อดด์ ฟิลลิปส์ (Todd Phillips) และภาพยนตร์เรื่องโจ๊กเกอร์ (Joker)

นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้นำ ภาพยนตร์อย่างอเมริกัน สไนเปอร์ (American Sniper)กราวิตี้ (Gravity) เดอะ เลโก้ แฟรนไชส์ (The Lego Franchise) เดอะ เกรท แกตสบี้ (The Great Gatsby) อาร์โก (Argo) และแม็ด แม็กซ์: ฟิวรี่ โรด (Mad Max: Fury Road) มาสู่ผู้ชมทั่วโลกตลอดระยะเวลา 20 ปีที่วอร์เนอร์บราเธอส์

นอกจากนี้ ผลงานของเขายังช่วยส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ระดับชาติในสหราชอาณาจักรและออสเตรเลีย สัญชาตญาณในการสร้างสรรค์และความสามารถเชิงพาณิชย์ของเขา ตลอดจนเครือข่ายทั่วโลกและประสบการณ์ระดับโลกที่เขามีเป็นส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของเขาที่วอร์เนอร์บราเธอส์

ในฐานะประธานฝ่ายการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และการผลิตทั่วโลก เขาก่อตั้งบริษัทสแตมพีด เวนเจอร์สขึ้นเพื่อสร้างผลงานในนามของเขาเอง ทั้งผลงานภาพยนตร์ โทรทัศน์ และสื่อดิจิทัล ตลอดจนนำภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์สมัยใหม่มาสู่จอภาพยนตร์

ความร่วมมือระหว่างฟิล์มอัลอูลาและสแตมพีด เวนเจอร์ส สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ปี 2573 หรือ Vision 2030 ของซาอุดีอาระเบียในการสร้างความหลากหลายทางเศรษฐกิจและส่งเสริมการพัฒนาวัฒนธรรม ด้วยระยะเวลาการผลิตสามปี ความร่วมมือดังกล่าวจะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอัลอูลาจากศูนย์กลางความคิดสร้างสรรค์ระดับภูมิภาคไปสู่เวทีสำหรับผู้มีความสามารถในการสร้างภาพยนตร์ระดับโลก

การมอบส่วนลดและข้อเสนอจูงใจโดยฟิล์ม อัลอูลา จะสร้างโอกาสให้กับนักเล่าเรื่องและผู้สร้างภาพยนตร์รุ่นใหม่โดยจะเป็นสะพานเชื่อมสำหรับการแบ่งปันเรื่องราวและการเรียนรู้ ฟิล์ม อัลอูลาเป็นที่รู้จักในด้านแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมในท้องถิ่นอย่างครอบคลุม และความร่วมมือครั้งนี้จะมีบทบาทในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่สดใหม่ในภูมิภาค

คุณอาเมอร์ อัลมาดานี ( Amr AlMadani) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารราชกรรมาธิการอัลอูลา กล่าวว่า “ความร่วมมือของเรากับสแตมพีด เวนเจอร์สโดยคุณเกร็ก ซิลเวอร์แมน ถือเป็นความร่วมมือครั้งแรกของภูมิภาคในด้านนี้ ตอกย้ำศักยภาพการลงทุนของซาอุดีอาระเบียในฐานะศูนย์กลางภาพยนตร์และความคิดสร้างสรรค์ ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา

ฟิล์ม อัลอูลาได้สร้างเศรษฐกิจภาพยนตร์ที่มั่นคงและยั่งยืนจนสามารถเป็นเจ้าภาพการผลิตภาพยนตร์จากทั่วโลก สตูดิโอคอมเพล็กซ์ขนาด 30,000 ตร.ม. ของเราใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ และเรากำลังยกระดับทักษะของชาวซาอุดีอาระเบียให้รับบทบาทผู้นำทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังกล้อง ความร่วมมือในระดับนี้จะเร่งการเติบโตของเราและเพิ่มการมองเห็นทั่วโลกของเรา”

คุณเกร็ก ซิลเวอร์แมน ( Greg Silverman) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสแตมพีด เวนเจอร์ส กล่าวว่า “ผมรู้สึกตื่นเต้นในการเป็นพันธมิตรครั้งยิ่งใหญ่ร่วมกับฟิล์ม อัลอูลา ซึ่งจะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการผลิตในระดับนานาชาติต่อไป สร้างโอกาสให้กับเศรษฐกิจและประชาชนในท้องถิ่น และเพิ่มขอบเขตและความแตกต่างให้กับ เรา

ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างผู้สร้างภาพยนตร์ในสหรัฐฯ และซาอุดีอาระเบีย ก่อให้เกิดเป็นภาพยนตร์ที่ดีขึ้น และความเข้าใจระหว่างกันที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น นับเป็นโอกาสในการเชื่อมโยงผู้คนที่จะเกิดขึ้นได้ผ่านการสร้างสรรค์งานศิลปะร่วมกันเท่านั้น”

ในฐานะราชกรรมาธิการประจำหน่วยงานด้านภาพยนตร์ของอัลอูลา ฟิล์ม อัลอูลา ถือเป็นผู้เล่นหลักในการพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในซาอุดีอาระเบีย นับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา บริษัทได้จัดการถ่ายทำภาพยนตร์มาเป็นเวลากว่า 700 วัน ซึ่งรวมถึงภาพยนตร์แอ็กชันกันดาฮาร์ (Kandahar)

ที่นำแสดงโดยเจอราร์ด บัตเลอร์ (Gerard Butler) ภาพยนตร์ดราม่าของพี่น้องรัซโซ๋ (Russo) เรื่องเชอร์รี่ (Cherry) ที่นำแสดงโดยทอม ฮอลแลนด์ (Tom Holland) และภาพยนตร์เรื่องแรกของผู้กำกับชาวซาอุดีอาระเบีย ทอว์ฟิค อัลซาดิ (Tawfik Alzaidi) อย่างโนราห์ (Norah) ซึ่งเป็นภาพยนตร์สารคดีเรื่องแรกของซาอุดีอาระเบียที่ถ่ายทำที่อัลอูลา

และนำแสดงโดยนักแสดงชาวซาอุดีอาระเบียทั้งหมด โดยมีทีมงานชาวซาอุดีอาระเบียกว่า 40% ผลงานทางโทรทัศน์ที่ถ่ายทำในอัลอูลายังประกอบด้วยซีรีส์อังกฤษเรื่องเอ็กซ์พีดิชั่น (Expedition) ของสตีฟ แบ็กชอลล์ และสารคดีแน็ตจีโอ (Nat Geo) พร้อมด้วยโฆษณา การโปรโมต การถ่ายภาพ และภาพยนตร์สั้นอื่น ๆ อีกมากมาย

นอกเหนือจากการเป็นเจ้าภาพการผลิตแล้ว ปัจจุบันฟิล์ม อัลอูลา ยังมุ่งเสริมความแข็งแกร่งของโครงสร้างพื้นฐานภาคพื้นดิน โดยใกล้เสร็จสิ้นการก่อสร้างโรงงานผลิตระดับโลกแบบครบวงจรในระยะที่ 1 โรงงานนี้ประกอบด้วยเวทีเสียงขนาด 30,000 ตร.ฟ. พื้นที่ด้านหลัง อาคารสนับสนุนการผลิต เวิร์กช็อป โกดัง สตูดิโอบันทึกเสียง พื้นที่ฝึกอบรมและฝึกซ้อม โรงอาหาร พื้นที่จัดกิจกรรม

และอาคารบริหารที่เด่นตระหง่าน นอกจากนี้ยังมีอาคารพักอาศัยฟิล์ม อัลอูลา (Film AlUla Residence) ซึ่งเป็นห้องพักสำหรับทีมงานที่เพรียบพร้อมด้วยเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งจำนวน 300 ห้อง พื้นที่ทำงานภาพยนตร์ที่เป็นมิตรสำหรับการเข้าพักทั้งระยะสั้นและระยะยาว ตลอดจนห้องพักระดับไฮเอนด์และระดับกลาง มอบตัวเลือกการเข้าที่พักที่หลากหลาย และตั้งอยู่ห่างจากเวทีเสียงเพียง 14 นาที

ฟิล์ม อัลอูลา ยังมุ่งเน้นไปที่การเฟ้นหาผู้มีความสามารถเพื่อเร่งการเติบโตของอุตสาหกรรม ครอบคลุมการจัดหาเงินทุนสำหรับนักสร้างภาพยนตร์มือใหม่ทั้งในซาอุดีอาระเบียและในระดับภูมิภาค การฝึกอบรมทักษะที่จัดโดยผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติจากครีเอทีฟ มีเดีย สกิลส์ (Creative Media Skills)

โดยไพน์วูด สตูดิโอส์ (Pinewood Studios) ในลอนดอน ตลอดจนโปรแกรมการให้คำปรึกษาที่ครอบคลุม เช่นอัลอูลา ครีเอตส์ (AlUla Creates) ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อบ่มเพาะความคิดสร้างสรรค์และส่งเสริมคนรุ่นใหม่ในด้านภาพยนตร์ ศิลปะและแฟชั่น

อัลอูลา ครีเอตส์ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มผู้มีความสามารถที่ได้รับการยกย่อง ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นไอคอนอย่างเอวา เฮอร์ซิโกวา (Eva Herzigova) และเฮเลนา คริสเตนเซน (Helena Christensen) ผู้บุกเบิกชาวซาอุดีอาระเบียอย่างไฮฟาอา อัล มานซาวเออร์ (Haifaa Al Mansour) และมิลา อัล ซาห์รานิ (Mila Al Zahrani) รวมถึงบริษัทภาพยนตร์ชื่อดังอย่างเวอร์ติโก ฟิล์มส์ (Vertigo Films)